จัดสรรคืนให้ชาวบ้าน ขีดเส้นภายใน180วัน ตามหลักกม.เดียวกัน แต่ชิ่งตอบปมปารีณา“ร.อ.ธรรมนัส” ประกาศยึดคืนที่ ส.ป.ก.ที่ถูกนายทุนฮุบนำมาจัดสรรให้คนจน หากพื้นที่ไหนไม่สามารถนำที่ดินมาจัดสรรให้เกษตรกรได้ภายใน 180 วัน ต้องสั่งเด้งปฏิรูปที่ดินจังหวัดทันที แต่พอถามถึงเรื่องการครอบครองที่ ส.ป.ก.ของ “ปารีณา” กลับไม่ยอมตอบ รีบกรรเชียงขึ้นรถไป ส่วนที่ดินของ ส.ส.ราชบุรี ปรากฏว่าป้ายของ ส.ป.ก.ที่ถูกมือดีถอดหายไปและยังไม่มีการแจ้งความยังเป็นประเด็นที่สนใจของประชาชนและความชอบธรรมของรัฐบาล กรณีการครอบครองที่ดิน 1,700 ไร่ในพื้นที่หมู่ 6 รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรค พลังประชารัฐ ขณะเดียวกัน นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชันได้เข้าแจ้งความที่ สภ.จอมบึงให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ และที่ดินเขต ส.ป.ก. ในพื้นที่หมู่ 6 รางบัว อ.จอมบึง ของ น.ส.ปารีณาแล้วนั้นต่อมาเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบบริเวณด้านหน้าฟาร์มไก่เขาสนของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ปัญหาดังกล่าว พบว่ายังมีการขนขี้ไก่ออกมาจากเชิงเขาด้านนอกฟาร์มพื้นที่สำหรับกองขี้ไก่เพื่อขายให้กับลูกค้า ส่วนบริเวณที่เคยมีป้ายของ ส.ป.ก.มาติดและถูกมือดีมาถอดออกไปนั้น ยังไม่มีการนำป้ายมาติดใหม่ เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมบึง ทราบว่าทาง ส.ป.ก. จ.ราชบุรี ยังไม่ได้มาแจ้งความกรณีป้ายที่ติดหายไปขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปพบกลุ่มเกษตรกรเรียกร้องที่ดินทำกินในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ที่ศาลาประชาคม อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยมีกลุ่มตัวแทนผู้เรียกร้องที่ดินทำกิน 11 กลุ่มจาก 14 จังหวัดภาคใต้รอยื่นหนังสือเรียกร้องพร้อมกันทั้งหมดกว่า 1,000 คน ร.อ.ธรรมนัสกล่าวปราศรัยกับประชาชนที่มารอว่า วันนี้มีกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่องที่ดินทำกิน ทั้งตัวแทนจากภาคเอกชนและเครือข่ายภาครัฐมาหารือกันเพื่อรับฟังปัญหาและแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร ในส่วนของพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ส.ป.ก. ทั้ง 14 จังหวัด พบว่าพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และอีก 13 อำเภอ ร้องทุกข์ว่าชาวบ้านกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ อยู่กินในฐานะคนไทยมารุ่นแล้วรุ่นเล่าในที่ดินแต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีเอกสารสิทธิในที่ดินเลยเป็นปัญหาสะสมมานาน ไม่สามารถแก้ไขได้ ทุกวันนี้เรามีทั้ง ส.ส. ส.ว. ทหาร ตำรวจ ช่วยกันแก้ปัญหา หากแก้ไม่ได้ให้มันรู้ไปรมช.เกษตรฯกล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร สิ่งที่จะทำต่อไปนี้คือ 1.ที่ดิน ส.ป.ก.ที่อยู่ในสัมปทานของกลุ่มนายทุนทุกจังหวัด เมื่อหมดสัมปทานแล้วมีความจำเป็นที่จะต้องยึดคืนพื้นที่ ส.ป.ก.ไว้ก่อน 2.ที่ดินใดก็ตามที่จัดสรรไปแล้วตกอยู่กับกลุ่มนายทุน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ใช้หลักกฎหมายเดียวกันคือยึดไว้ก่อน 3.ที่ดินใดก็ตามที่อยู่ในเขตอุทยานฯ หรือกรมป่าไม้ ที่มีสภาพไม่ใช่ป่าเป็นที่อยู่ที่ประชาชนเคยใช้เป็นพื้นที่ทำกิน ตามนโยบาย 66/23 ทุกกระทรวงจะต้องทำงานเป็นทิศทางเดียวกัน ในการส่งคืนที่ดินทั้งหมดให้ประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ยกเว้นพื้นที่ที่สามารถออกเอกสารสิทธิของกระทรวงมหาดไทยได้ให้ออกเป็นโฉนด เมื่อเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.แล้วร.อ.ธรรมนัสกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประชาชนดำเนินการกันเองด้วยการจัดสรรที่ดินกันแบบผิดๆ ตนขอร้องว่าอย่าไปทำแบบนั้น เพราะหลังจากนี้เราจะเซ็ตซีโร่ใหม่นำมาจัดสรรให้กับผู้ไร้ที่ดินทั้งหมด เมื่อมาจัดสรรกันใหม่จะลงตัว โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กระบี่ ตนจะสร้างเป็นเกษตรแปลงใหญ่ เป็นเมืองใหม่ให้กับเกษตรกร ที่ดินที่อยู่ในเมือง จะนำมาจัดสรรให้เป็นที่อยู่อาศัย ครอบครัวใดไม่มีเงินสร้างบ้าน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะมาดำเนินการให้ทุกคน หลังจากเรายึดคืนพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ภายใน 180 วัน หากไม่สามารถนำที่ดินมาจัดสรรให้เกษตรกรได้ ตนจะสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดทันที“อีกเรื่องที่ผมกำลังดำเนินการ และนำเข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือปัญหาแนวเขตที่ดิน ทั้งแนวเขตของกรมอุทยานแห่งชาติ แนวเขตของกรมป่าไม้ แนวเขตของมหาดไทย แนวเขตของทหาร แนวเขตกระทรวงเกษตรฯ แต่ละกระทรวงใช้แนวเขตของตัวเองเกิดปัญหาทับซ้อน ผมมีแนวคิดรวมแนวเขตทั้งหมดเป็นแนวเขตเดียวกัน โดยเชิญทุกกระทรวงเข้ามาพูดคุยร่วมกันดำเนินการรวมกันเป็นแผนที่เดียวกันทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ เห็นด้วยกับแนวคิดนี้และสั่งการให้ผมดำเนินการเรื่องนี้ได้ทันที ผมเป็นลูกชาวนา ถ้าทำไม่ได้ต้องลาออกทันที” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวสอบถาม ร.อ.ธรรมนัสถึงการครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐว่าดำเนินการอย่างไร แต่ ร.อ.ธรรมนัสไม่ยอมตอบและรีบเดินขึ้นรถออกไปทันทีด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. 1,700 ไร่ ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ว่า ถ้าดูนโยบายรัฐบาลตั้งแต่เป็นรัฐบาลรัฐประหาร การทวงคืนผืนป่า สร้างผลกระทบให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก มีการทวงคืนเฉพาะบางกลุ่มแล้วเอามาให้พวกเดียวกันหรือไม่ กรณีของ ส.ป.ก.รัฐบาลอย่าลูบหน้าปะจมูก อย่าหรี่ตาข้างหนึ่งให้พวกพรรคพวกตัวเอง ควรตรวจสอบอย่างมีมาตรฐาน อย่าให้เป็นเหมือนที่คนครหากันว่าเป็นโปรย้ายค่าย ถ้าย้ายมาแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด“รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้แสดงความจริงใจ ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อพิสูจน์ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์พวกพ้อง เพราะความเปราะบางที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้คือ การเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง เห็นได้จากกรณีสอบ ส.ป.ก.4-01 ในอดีตประชาชนรับไม่ได้ที่เอาที่ดิน ส.ป.ก.ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ รัฐบาลอย่าประมาทพลังของประชาชน ขณะนี้เห็นได้ว่ามีความพยายามอุ้มคนฝ่ายรัฐบาลอยู่ แต่โลกปัจจุบันข้อมูลข่าวสารเปิดกว้าง กรณี น.ส.ปารีณายิ่งพูดหลักฐานยิ่งมัดตัว สุดท้ายคงไม่มีใครช่วยได้ ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะช่วย น.ส.ปารีณาได้เพราะจะกลายเป็นเตี้ยอุ้มค่อม” นายอนุสรณ์กล่าวส่วนนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กฎหมาย ส.ป.ก.ออกมาเพื่อช่วยคนจน ต้องเป็นเกษตรกรเท่านั้น จึงจะเข้าไปทำกินได้ ไม่สามารถซื้อขายจ่ายโอนหรือจำนอง คนที่ถือ ส.ป.ก.ต้องเป็นเกษตรกรเท่านั้น ขณะนี้มีการบิดเบือน กฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้นักการเมือง มีชื่อเสียงนับพันไร่ เป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก แม้จะอ้างว่าทำการเกษตร แต่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะไม่เข้าข่ายคนจน ไม่มีที่ทำกิน กรณีนี้ถ้าเป็นฝ่ายอื่นคงโดนขุด โดนตรวจสอบเพิกถอน ติดคุก อยากดูว่า รัฐบาลจะเอาจริงเรื่องนี้หรือไม่