ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ ทำให้เกษตรกรหลายคนหันไปทำอาชีพใหม่เพื่อความอยู่รอด เช่นเดียวกับที่หมู่ บ้านโคกพัฒนา หมู่ 12ต.ละลาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นหมู่บ้านชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวบ้านหันไปปลูกดอกดาวเรืองขาย สร้างรายได้ในแต่ละปีไม่น้อยเลยทีเดียวน.ส.ปราณี จันหอม อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกพัฒนา เปิดเผยว่าปลูกดอกดาวเรืองขายมา 2 ปีแล้ว ปลูกทั้งหมด 3 แปลง รวม 12 ไร่แต่เดิมพื้นที่ทั้งหมดปลูกยางพารา ตอนหลังราคายางตกต่ำ จึงโค่นยางพาราทิ้งหันไปปลูกดอกดาวเรืองแทนดอกดาวเรืองเป็นพืชเศรษฐกิจ มีความต้องการของตลาดสูง ราคาไม่ตก ขายได้ตลอดทั้งปี เป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลา 45 วัน ก็ตัดขายได้ และสามารถยืนต้นออกดอกให้ตัดได้นานประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจึงตัดทิ้ง พักดิน ปรับปรุงดินแล้วปลูกรุ่นใหม่สำหรับแปลงใหญ่แบ่งพื้นที่ปลูกออกเป็น 3 รุ่น ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอก ส่วนอีก 2 แปลง เนื้อที่แปลงละ 2 ไร่ เพิ่งลงครั้งแรกต้นกำลังเติบโตรอผลิดอกโดยตนจะตัดขาย 1 วัน หยุดพัก 2 วัน เพื่อให้ดอกเติบโต เก็บเสร็จก็นำไปคัดขนาดของดอกเป็น 5 ขนาด บรรจุถุงขาย มีแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน ไม่ต้องขนส่งไปตลาด ขนาดของดอกที่คัดออกมา 5 ขนาด ได้ราคาดอกละ 40 สตางค์ ถึงดอกละ 1 บาทเก็บครั้งหนึ่งทำรายได้หักต้นทุนทุกอย่างแล้วเหลือประมาณ 5-6พันบาท ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจ ต้นทุนไม่สูงเพราะไม่ใช้สารเคมี ที่นี่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทำเองต้นทุนต่ำนอกจากคนปลูกจะมีรายได้งามแล้ว ยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในชุมชนด้วยโดยเฉพาะที่สวนตนมีคนงานมาทำงานวันละ 20 คน วันธรรมดาก็เป็นคนวัยทำงาน ส่วนวันหยุดก็จะเป็นผู้สูงอายุหรือเด็กนักเรียนทำงานในร่มช่วยคัดดอกบรรจุถุงประชาชนในชุมชนมีรายได้ไม่เดือดร้อนไม่ต้องอพยพไปทำงานต่างถิ่น ได้อยู่กับครอบครัว ที่สำคัญดอกไม้เป็นสิ่งที่สวยงาม ทั้งเจ้าของสวนและคนงานทำงานกันอย่างมีความสุข นักท่องเที่ยวผ่านไปเห็นดอกดาวเรืองก็มาแวะขอถ่ายรูปทุกคนล้วนแต่มีความสุข.ณัฐธรชนม์ สิริโชติสกุล