ข่าวคราวหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด แม้จะเงียบหายไปพักใหญ่ แต่ใช่ว่าจะหมดไป...ยิ่งตอนนี้ใกล้เกี่ยวข้าว ตามต่อด้วยฤดูปลูกข้าวโพด อาหารอันโอชะของศัตรูพืชพันธุ์นี้ เกษตรกรบ้านเราได้เตรียมพร้อมรับมือกันแค่ไหนเพราะความร้ายกาจในการทำลายข้าวโพดวัยอ่อน ต้องบอกว่า ยังไม่มีศัตรูข้าวโพดพันธุ์ใดเทียบ “หนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด”ได้ จนถูกจัดอันดับให้เป็นแมลงศัตรูพืชเบอร์ 1 ของโลก เพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่เดือน นับแต่พบการระบาดครั้งแรกในเอเชียที่อินเดีย กลางปีที่แล้ว ตกมาถึงวันนี้ ถ้านับตั้งแต่เส้นศูนย์สูตรขึ้นไปมันบุกไปไกลได้ถึงญี่ปุ่น ด้านทิศใต้ลงไปจ่อบุกออสเตรเลีย คิดว่าอีกไม่นานโดนแน่ ส่วนด้านตะวันออกสุดบุกไปถึงฟิลิปปินส์ เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก“จากเดิมที่เราเชื่อว่า ผีเสื้อหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุดสามารถบินอพยพไปได้ไกลถึงคืนละ 100 กม.นั้นไม่จริงแล้ว มันบินอพยพได้ไกลมากกว่านั้น งานวิจัยของนักกีฏวิทยาญี่ปุ่นรายงานว่า เมื่อมีปัจจัยลมพัดมาเกื้อหนุน ภายใน 21 ชั่วโมง สามารถอพยพเคลื่อนที่ได้ไกล 800 กม. ภายใน 24 ชั่วโมง อพยพได้ไกลถึง 1,100 กม. และใน 36 ชั่วโมง อพยพเคลื่อนที่ได้ถึง 1,600 กม. ฉะนั้นจึงไม่น่า แปลกใจทำไมมันถึงสามารถข้ามน้ำข้ามทะเลไประบาดไกลถึงเกาะกลางทะเลลึกอย่างไต้หวัน ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์” นายศรุต สุทธิอารมณ์ ผอ.กลุ่มบริหารศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตร ให้ข้อมูลใหม่ถึงพิษสงในการระบาดของแมลงศัตรูพืชเบอร์ 1 ของโลก ที่จะหวนกลับมาระบาดใหม่ในไม่ช้าไม่นานนี้เพราะธรรมชาติของแมลงพันธุ์นี้ อุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส จะตาย...วันนี้ซีกโลกเหนือเข้าสู่ ฤดูหนาว การบินอพยพครั้งใหญ่เพื่อหนีความหนาวเย็นลงมาหาความอบอุ่นทางใต้จะมีตามมา บ้านเรานอกจากอุณหภูมิไม่ต่ำขนาดนั้น แถมยังเจอภาวะโลกร้อนสำทับเข้าให้ ที่สำคัญยังตรงกับฤดูปลูกข้าวโพดของบ้านเราอีกต่างหากหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด...มาเยี่ยมแน่!!!“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา เราพบว่า ในช่วงฤดูฝน การระบาดของหนอนพันธุ์นี้จะน้อย เพราะตัวหนอนที่ทำลายข้าวโพดมักจะเข้าไปอยู่อาศัยในกรวยยอดของต้นข้าวโพด พอฝนตกน้ำไปขังอยู่ในกรวยยอด เลยทำให้หนอนจมน้ำตาย เหมือนอย่างที่มีคนบอกว่าเอาเกลือไปหยอดในกรวยยอดข้าวโพดสามารถกำจัดหนอนได้นั่นแหละ แต่หลังจากหนอนตายไปแล้ว ต้นข้าวโพดจะแห้งตายตามมาทีหลัง คิดจะใช้วิธีนี้ เอาน้ำไปหยอดจะดีกว่า” แต่การเอาน้ำไปหยอดทีละยอดทีละต้น ในทางปฏิบัติคงเป็นไปได้ยาก ผอ.กลุ่มบริหารศัตรูพืช กรมวิชาการเกษตร แนะใช้วิธีที่ได้ผลดีที่สุด...ก่อนปลูกให้นำเมล็ดพันธุ์ไปคลุกด้วย สารไซแอนทรานิลิโพรล 20% SC อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อเมล็ดพันธุ์ 1 กก.เพราะจากการศึกษาพบว่า หนอนพันธุ์นี้มีนิสัยชอบทำลายข้าวโพดวัยอ่อน อายุไม่เกิน 45 วัน มากที่สุด...การคลุกเมล็ดด้วยสารไซแอนทรานิลิโพรล 20% SC จะช่วยคุ้มครองต้นข้าวโพดวัยอ่อนได้ 3 สัปดาห์หลังจากนั้น ถ้ายังพบหนอนมาอาละวาดอยู่อีก เพราะการบินอพยพของผีเสื้อหนอนกระทู้ข้าวโพดลายจุด จะมีหลายระลอก หลายรุ่น...ไม่ใช่อพยพมาแค่รุ่นเดียวให้ฉีดพ่นด้วยสารเคมีทางใบอีก 1–2 ครั้ง ในระยะห่างกันประมาณ 1 เดือน แต่มีข้อแม้การฉีดพ่นแต่ละครั้งให้เลือกใช้ต่างกลุ่มกัน เพื่อป้องกันการดื้อยาสารเคมีที่แนะนำในแต่ละกลุ่มมีดังนี้...สารในกลุ่ม 5 สไปนีโทแรม 12% SC หรือสไปนีโทแรม 25% WG...กลุ่ม 6 อีมาเมกตินเบนโซเอต1.92% EC หรืออีมาเมกตินเบนโซเอต 5% WGสารในกลุ่ม 13 คลอร์ฟีนาเพอร์ 10% SC...กลุ่ม 22 อินดอกซาคาร์บ 15% EC...กลุ่ม 18+5 เมทอกซีฟีโนไซด์+สไปนีโทแรม 30+6% SC...และกลุ่ม 28 คลอแรนทรานิลิโพรด 5.17% SC หรือฟลูเนไดอะไมด์ 20% WG การฉีดพ่นทุกครั้งให้เน้นพ่นสารไปที่กรวยยอดต้นข้าวโพดเป็นหลัก และวิธีฉีดพ่นที่ให้ผลดีที่สุด ทั่วถึงมากที่สุด...ฉีดพ่นด้วยโดรนแต่การฉีดพ่นด้วยโดรน ผอ.กลุ่มบริหารศัตรูพืชย้ำ...เจ้าของแปลงข้าวโพดต้องเน้นบอกให้คนรับจ้างฉีดพ่น ผสมสารเคมีในอัตราเข้มข้นตามที่ระบุในฉลาก...พื้นที่ 1 ไร่ ควรใช้ปริมาณสารเคมีขนาดไหน ต้องใช้มากขนาดนั้นเพราะถ้าปริมาณความเข้มข้นต่อไร่ไม่ถึง การป้องกันกำจัดจะไร้ผล...จะสูญเงินทั้งค่ายาและค่าจ้างโดรนมาพ่นไปฟรีๆ.ชาติชาย ศิริพัฒน์