นิสิตปี 1 คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ อยู่กับยาย เครียดหนักใช้สายไฟผูกคอตัวเองดับภายในห้องนอน ทาวน์เฮาส์ ย่านดินแดง พบจดหมายลาตายระบุเจ้าตัวเลือกเอง เพื่อนบ้านเผยเพิ่งมาอยู่ได้ 6 เดือนเพื่อเรียน ป.ตรี ยายเคยเปรยหลานป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ขณะที่พ่อผู้ตายบอกคืนก่อนตายลูกชายโทร.ไปหาบ่นเครียดไม่มีเพื่อน ไม่อยากเรียนแล้วนิสิตจุฬาฯเครียด-ซึมเศร้าผูกคอดับ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ย. ร.ต.อ.ปภิณวิช เสนาแปลง รอง สว. (สอบสวน) สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตที่ทาวน์เฮาส์ เลขที่ 59/14 ซอยประชาสงเคราะห์ 28 แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวชฯ รพ.รามาธิบดี และมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา ที่ห้องนอนชั้น 2 พบศพนายภูมิ ฉัตรสุวรรณกิจ อายุ 19 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ เป็นนิสิต ชั้นปีที่ 1 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในชุดนักศึกษาเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สวมทับเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีกรมท่า มีสายไฟผูกที่ลำคอติดกับขอบประตูห้องนอนในท่ายืน คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. บนขอบประตูยังพบเข็มขัดของมหาวิทยาลัยผูกเตรียมอีกเส้น บนโต๊ะอ่านหนังสือพบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือ ใจความว่า “ไม่ต้องโทษตัวเอง เพียวเลือกเอง” ใกล้กันมีหนังสือกฎหมายอาญา ภาค 1 และขวดสุราที่เปิดดื่มพร้อมซองบุหรี่ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐานสอบสวนเพื่อนบ้านทราบว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่กับยาย 2 คน พ่อทำงานเป็นข้าราชการที่ จ.พิษณุโลก ส่วนแม่อยู่ จ.เชียงใหม่ ผู้ตายเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่กับยายที่บ้านหลังนี้ประมาณ 6 เดือน เพื่อศึกษาต่อชั้น ป.ตรี ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นยายเดินมาบอก หลานไม่ลงมาจากห้องเลยจึงขึ้นไปดูพบผูกคอเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้ ยายยังเคยเปรยให้ฟังว่าหลานเป็นโรคซึมเศร้าเคยผ่านการรักษาตัวมาแล้วขณะบิดาของผู้ตายให้ข้อมูลเบื้องต้นทางโทรศัพท์กับพนักงานสอบสวนว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 23 ก.ย. ผู้ตายโทรศัพท์ไปหา โดยบ่นว่าไม่อยากเรียนที่นี่ เพราะเครียดหลายอย่าง ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่มีเพื่อน แบบทดสอบเบื้องต้น "โรคซึมเศร้า" เช็กง่ายๆ 9 ข้อ ได้ด้วยตนเอง จึงให้กำลังใจและคำแนะนำไปตามปกติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายดังกล่าวเบื้องต้นตำรวจสันนิษฐาน ผู้ตายน่าจะเกิดอาการเครียด ประกอบกับอาการโรคอาการซึมเศร้าจึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย ส่งศพให้แพทย์นิติเวชฯ รพ.รามาธิบดีชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง