ข้าวฮางได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้รักษ์สุขภาพมากขึ้น ความต้องการมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ข้าวฮางสามารถส่งออกไปตลาดต่างประเทศ แต่ไม่สามารถผลิตให้ได้ปริมาณตามความต้องการ เพราะติดปัญหากระบวนการผลิตที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะในฤดูฝน “การแปรรูปข้าวฮางงอก มี 2 แบบ ข้าวระยะฮางนา ระยะนี้อายุข้าวใกล้เก็บเกี่ยวแต่ถูกน้ำท่วม ชาวนาเกี่ยวข้าวขึ้นจากน้ำ นำข้าวมาบ่มให้งอก นึ่งแล้วผึ่งแดด 4-5 วันให้ข้าวแห้ง ก่อนนำมาสีเป็นข้าวสาร กับ ข้าวระยะฮางเล้า เป็นข้าวที่เกี่ยวแล้วเก็บไว้ในยุ้งฉางแล้วนำมาแปรรูปเป็นข้าวฮางงอก” ผศ.ดร.สุพรรณ ยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม บอกว่า การทำข้าวฮาง มีกระบวนการขั้นตอนมากมาย ตั้งแต่นำข้าวเปลือกมาแช่น้ำเพื่อกระตุ้นให้ข้าวงอกนาน 24-48 ชม. ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำทิ้งทุก 4 ชม. เพื่อไม่ให้ข้าวมีกลิ่นเหม็นอับ จากนั้นนำข้าวเปลือกมานึ่ง นำมาผึ่งแดดระยะเวลา 3-4 วัน กระทั่งข้าวเปลือกแห้งขั้นตอนนี้แหละเป็นปัญหาของชาวบ้าน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนพรำ ไม่มีแดดให้ตากข้าวเปลือก ปี 2560 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จึงให้ทุนทำโครงการวิจัยศึกษาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ...นอกจากฝนฟ้าเป็นต้นเหตุแล้ว กระบวนการแปรรูปมีความพิถีพิถัน โดยเฉพาะการทำข้าวฮางส่งออก ต้องปล่อยน้ำล้างข้าวสม่ำเสมอ ลดกลิ่น เพื่อกระตุ้นให้ข้าวงอกทุกเมล็ด ทำให้สิ้นเปลืองน้ำ เพราะการงอกของข้าวเปลือก จะต้องมีองค์ประกอบแสง ออกซิเจน น้ำ และความร้อนที่เกิดจากข้าวเปลือกกองสุมกันมาก...ระยะนี้ถ้าปล่อยน้ำเข้าอย่างเหมาะสม ข้าวฮางถึงจะให้สารกาบาสูงแต่ถ้าให้น้ำน้อย กองข้าวร้อนเกินไป ข้าวจะงอกไม่เท่ากันทุกเมล็ด...แต่ ถ้าให้น้ำมากไป นอกจากการงอกจะช้าลง แถมยังทำให้ข้าวแช่น้ำเน่าอีกต่างหาก “เราจึงออกแบบถังแช่ข้าวเปลือกแบบใหม่ เป็นรูปกรวยหงาย ด้านล่างมีช่องระบายน้ำลงไปยังเป็นกล่องรับน้ำที่อยู่ด้านล่าง ด้านข้างติดตั้งปั๊มน้ำเพื่อสูบปล่อยน้ำอัตโนมัติให้น้ำได้ไหลแบบหมุนเวียน ปล่อยน้ำให้ไหลผ่านกองข้าวในถังกรวย 30 นาที แล้วหยุด 60 นาที สลับไปเรื่อย วิธีนี้ไม่เพียงทำให้กองข้าวเกิดความร้อนได้อย่างเหมาะสม ไม่ร้อนมาก และไม่ทำให้ข้าวแช่น้ำนานเกินไป นอกจากกระตุ้นให้เกิดการงอกได้เท่ากันทุกเมล็ด ยังใช้เวลาน้อยแค่ 15 ชม. เท่านั้นโดยไม่ต้องเสียเวลาบ่มข้าว วิธีการนี้จะต่างกับวิธีการเดิมๆ ที่ชาวบ้านทำกันต้องใช้เวลาแช่ข้าวนาน 48 ชม. และบ่มข้าว 18 ชม.” ดร.สุพรรณ บอกว่า วิธีการใหม่หลัง 15 ชม.ผ่านไป สามารถนำข้าวไปนึ่ง 20 นาที แล้วนำไปอบแห้งด้วยเครื่องอบแห้งแบบถังทรงกระบอกหมุนด้วยระบบรังสีอินฟราเรดร่วมกับลมร้อนอีก 15 นาที แทนการนำไปผึ่งแดด จากนั้นนำข้าวเปลือกไปสีเป็นข้าวสาร สรุปแล้วกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาแค่ 1 วัน จากเดิมที่ต้องใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน.เพ็ญพิชญา เตียว