ที่สุดของเสียงเรียกร้องขอความเป็นธรรมมันคงไม่ดังพอพล.ต.อ.นเรศ นันทโชติ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. “ทวงสิทธิ” การพิจารณาเลื่อนตำแหน่งเป็น รอง ผบ.ตร.ทว่าเรื่องเงียบหายเสมือนเป็น “นิยายน้ำเน่า” อีกบทในยุทธจักรสีกากีไม่มีอาการตอบสนองสะท้อนอารมณ์ความใส่ใจที่จะไถ่ถามเหตุผลของผู้กุมอำนาจกระนั้นก็ตาม พล.ต.อ.นเรศเขียนอัตประวัติชีวิตตัวเองไว้ในหนังสือฝ่าวิกฤติ วิธีคิด ประสบการณ์ “ตำรวจแบบผม” ระบายมุมมองไว้หลากหลายทิ้งไว้เป็น “ตำรา” ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี 2563เขาบอกว่า ประสบการณ์และบทเรียนที่ได้จากการต่อสู้และเผชิญหน้ากับวิกฤติปัญหาหนักหน่วงของชีวิตที่สุดแล้ว มันคือต้นทุนและภูมิคุ้มกันของชีวิตที่สร้างความแข็งแกร่ง ความกล้า ความมั่นใจในการที่จะพาชีวิตและงานก้าวเดินต่อไปข้างหน้าเหมือนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคชนิดนั้นไว้ในตัวแล้ว“ตำรวจแบบผมไม่ได้เป็นง่าย โตง่ายอย่างที่ใครคิด” พล.ต.อ.นเรศว่าหนังสือเล่มนี้ เขาเขียนจากประสบการณ์จริงที่หาไม่ได้ ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการเผชิญกับวิกฤติและจากการทำงานในอาชีพตำรวจมากกว่า 30 ปีเจ้าตัวมีความฝันวัยเด็กอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อและมีโอกาสเพียงเสี้ยววินาทีแบบชะตาฟ้าลิขิตกว่าจะได้เป็นตำรวจทว่าเมื่อเป็นตำรวจแล้วชีวิตต่อจากนั้นไม่ง่ายเลยนายพลคนดังอยากแบ่งปันให้คนอื่นได้รับรู้เรื่องราวในชีวิต และมองว่าบางช่วงที่สำคัญของชีวิตอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเก่งหรือไม่เก่ง เป็นคนดีหรือไม่เป็นคนดี แต่อยู่ที่การรู้หรือไม่รู้มากกว่า“อย่าเสียเวลาไปถามประชาชนว่า ต้องการตำรวจแบบไหน แต่ควรถามตัวเองว่า เราเป็นตำรวจแบบไหน”ทำอะไรเป็นชิ้นงานที่มีประโยชน์แก่ประชาชนและสังคมบ้าง."สหบาท"