ปัญหาขาใหญ่-มาเฟียยังไม่สูญพันธุ์ไปจากสังคมไทยในยุค 4G ผู้มีอิทธิพลยังแสวงหาประโยชน์จากผู้ที่มีฐานะด้อยกว่า บางกรณียังใช้ไหว้วานให้สมุนใต้อาณัติช่วยทำความผิดตอบแทนเป็นอามิสสินจ้างเล็กน้อยตัวอย่างคดี นายอัศวิน หรือเอก บุญเมือง อายุ 44 ปี คนร้ายใช้ปืนจี้ชิงทองคำหนัก 179 บาท และเงิน 4 หมื่นบาท จากร้านออโรร่า ห้างตั้งฮั่วเส็งธนบุรี ช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย.คดีนี้ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. กุมบังเหียนฝ่ายสืบสวนทั้ง สน.บางพลัด และ กก.สส.บก.น.7 สนธิกำลังเช็กประวัติลากคอนายอัศวินยัดคุกด้วยตนเองรื้อประวัติ นายอัศวิน เป็นคนชุมพรเข้ากรุงมาเช่าห้องพักย่านหัวลำโพง ยึดอาชีพขับสามล้อ ป้วนเปี้ยนรับผู้โดยสารตามสถานีรถไฟ หาลำไพ่พิเศษด้วยการเป็นเอเย่นต์ยาบ้ารายย่อย ทั้งขายทั้งแจกใช้เทคนิคพิชิตใจผู้เสพผันตัวเป็นขาใหญ่คุมคนไร้บ้านทั้งชายหญิงที่มาพักอาศัยหลับนอนอยู่ในละแวกนั้น!ที่สำคัญเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์นายจ้างและคดีค้ายาบ้า วันเกิดเหตุแม้ลงมือก่อเหตุเพียงลำพัง แต่มีบุคคลเร่ร่อนทั้งชายและหญิงช่วยอำพรางพฤติกรรมโจรด้วยวันก่อเหตุนายอัศวินพาหญิงสาวรายหนึ่งขึ้นรถ จยย.ซ้อนท้ายไปนั่งกินชาบูในห้างอย่างใจเย็นเพื่อดูลาดเลา หลังจากนั้นไล่หญิงสาวรายนั้นกลับไปก่อนลงมือพอลงมือสำเร็จก็ขี่รถ จยย.กลับไปย่านหัวลำโพงเพียงลำพัง แล้ววานให้ลูกสมุนอีกคนช่วยนำรถไปจอดทิ้งที่ตลาดคลองเตย หวังอำพรางพาหนะที่ใช้ก่อเหตุเมื่อมีทั้งทองรูปพรรณและเงินสดมูลค่ากว่า 4 ล้านบาทในมือ นายอัศวินชักชวนลิ่วล้อชายหญิงคนสนิทรวม 5 คน ไปเปิดห้องกบดานที่โรงแรมอลิซ ย่านงามวงศ์วานฉลองการเป็นเศรษฐีด้วยการปาร์ตี้ยาบ้าเป็นรางวัลไว้ให้ลูกน้องทุกคนเสพกันได้เต็มที่!?หลังถูกบุกเข้าจับกุมตำรวจยึดของกลางคืนมาได้จำนวนหนึ่ง นายอัศวินหัวโจกอ้างว่า ต้องการเงินไปใช้หนี้ค่ายาบ้าสมุนคนไร้บ้าน 5 คนถูกแจ้งข้อหาเสพยา และ 1 ในนั้นมีหมายจับหลบหนีที่คุมขังของศาลจังหวัดเพชรบุรี!แหล่งเพาะเชื้อโจรคดีนี้เริ่มจากการรวมตัวกันที่สถานีขนส่ง..."สหบาท"
