เพิ่มประสิทธิภาพคุ้มค่าสกัดป่วย-ตาย เริ่มดีเดย์ปี 63 ใช้ “บัตรทอง” ได้นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า มะเร็งปากมดลูก พบเป็นอันดับ 2 ในผู้หญิงไทย มีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก แต่รักษาให้หายได้หากพบในระยะแรก และเพื่อลดจำนวนผู้ป่วย การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่ระยะแรกเพื่อนำไปสู่การรักษาจึงเป็นมาตรการสำคัญ โดยบรรจุเป็นสิทธิประโยชน์กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ดำเนินการร่วมกับหน่วยบริการ บริการตรวจคัดกรอง ด้วยวิธีแปปสเมียร์ ซึ่งใช้ในประเทศไทยมากว่า 70 ปี หรือวิธีวีไอเอที่เป็นการตรวจโดยชโลมปาก-มดลูกด้วยน้ำส้มสายชู 3-5 % มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิผลของบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและเป็นไปตามข้อแนะนำ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฉบับปรับปรุงเดือน ก.ย.2561 ของ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ที่ผ่านมาได้เห็นชอบให้เริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ แทนการตรวจด้วยแปปสเมียร์ หรือวีไอเอ ในปี 2563 ตามรูปแบบบริการการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ที่ปรับปรุง โดยหน่วยบริการสามารถเลือกที่จะให้บริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ทั้ง 3 รูปแบบ ทั้งแปปสเมียร์, วีไอเอ และเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ เป็นการตรวจหาดีเอ็นเอของเชื้อไวรัสเอชพีวีที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก วิธีนี้มีความไวในการตรวจหาเซลล์ผิดปกติสูงมาก แต่มีข้อจำกัดที่ต้องควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด ราคาค่อนข้างแพง และการใช้จำกัดอยู่ในสถานพยาบาลที่มีห้องปฏิบัติการขนาดใหญ่ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาเครื่องและชุดตรวจเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ ให้ใช้งานง่ายและราคาถูก ประกอบกับผลการศึกษาการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ โดยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ระบุว่า เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ เป็นวิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า ทำให้สามารถตรวจพบผู้ป่วยในระยะแรกเริ่มเพิ่มขึ้นและเข้าสู่การรักษาได้โดยเร็วก่อนลุกลาม ช่วยให้อุบัติการณ์และการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกลดลงเมื่อเทียบกับวิธีคัดกรองในปัจจุบัน ทั้งยังมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกัน ส่วนรูปแบบของบริการคัดกรองมะเร็ง ปากมดลูกด้วยเอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ จะเป็นวิธีคัดกรอง มะเร็งปากมดลูกลำดับแรกในกลุ่มประชากรอายุ 30-59 ปี กรณีที่ผลการตรวจไม่พบเชื้อจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองทุก 5 ปี และในกรณีที่ตรวจพบเชื้อจะทำการตรวจยืนยันซ้ำและเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป“การเริ่มสิทธิประโยชน์เอชพีวี ดีเอ็นเอ เทสต์ ในปี 2563 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการพัฒนาของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” เลขาธิการ สปสช. กล่าว.