พล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ คลุกคลีทำคดีอยู่เมืองปากน้ำโพจนแทบเป็นบ้านเกิดของตัวเองไปแล้วพล.ต.ต.ดำรงค์ เพ็ชรพงศ์ ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ เริ่มต้นชีวิตนักสืบเข้าไปอยู่ใน “ทีมฉลามดำ” ของ พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ อดีต ผบช.ภ.4 ตั้งแต่ตัวเองเป็นแค่รองสารวัตร เพิ่งจบนายร้อยตำรวจรุ่น 37 มาหมาดๆถึงมองปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ทะลุปรุโปร่งแต่สิ่งที่เห็นแล้วรู้สึกขัดตาคือ กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ดัดแปลงโรงจอดรถมาทำเป็นห้องทำงาน เปรียบเทียบไม่ต่างจาก “รังหนู” ดูคับแคบ ไม่สมศักดิ์ศรีนักสืบ ที่เขาเคยเติบโตมานายพลมือปราบจึงประสาน พระครูพิสุทธิวรากร รอง เจ้าคณะอำเภอโพทะเล เจ้าอาวาสวัดหนองดง จ.พิจิตร บ้านเกิดของตัวเอง ทำ “พระรุ่นเพ็ชรดำรงค์ธรรม” ขึ้นมาให้ประชาชนได้เช่าเป็นวัตถุมงคลไว้บูชานำเงินมาจัดสร้างอาคารกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ขึ้นมาใหม่แทน “รังเก่า” ที่อยู่กันซอมซ่อมาหลายสิบปีกระทั่งได้งบประมาณ 4 ล้านกว่าบาท ใช้เวลา 7 เดือน ก่อสร้างอาคาร 2 ชั้นสำเร็จตามความตั้งใจ มีเจ้าอาวาสวัดหนองดงเมตตาตั้งชื่ออาคารว่า “เพ็ชรดำรงค์ธรรม”พล.ต.ต.ดำรงค์บอกว่า อยากจะทิ้งอะไรไว้ให้ตำรวจได้ใช้ทำงาน ถ้าต้องรองบประมาณหลวงอาจจะรอนาน แล้วอาจไม่ทันเสร็จในยุคเรา เมื่อเรารักงานตรงนี้ ไม่ว่าอะไร เชื่อว่าถ้าร่วมแรงร่วมใจก็สำเร็จได้“ความสำเร็จตรงนี้ไม่ใช่ผมคนเดียว แต่เกิดจากหัวหน้าทุกโรงพัก เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ฝ่ายอำนวยการทั้งหมด พ่อค้า ประชาชน แม้แต่การสร้างอาคารก็เป็นช่างของตำรวจเป็นผู้รับเหมาในราคาที่ไม่ได้คิดกำไร ต้องขอบคุณทุกคน” ผบก.ภ.จ.นครสวรรค์ว่าเจ้าตัวยังทิ้งหลักการการทำงานฝากถึงรุ่นน้องไว้ 3 ส่วนด้วยว่า งานแรกคือ งานที่ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ทำเป็นนโยบายที่ต้องทำ เช่นเดียวกับงานประจำที่ต้องทำไม่ให้ขาดตกบกพร่องสุดท้ายคือ งานที่เราอยากจะทำโดยเฉพาะกับคนที่จะโตเป็น “ผู้นำ” ไปอยู่ที่ไหนจะต้องไปพัฒนาบุคลากร พัฒนาหน่วยไม่ใช่ทำตัว “ห่วย” ให้ลูกน้องนินทาไล่หลัง!!!สหบาท