ญาติแถลงข่าวโต้ฆ่าตัวหนีคดี ‘สาวสนิท’ดีขึ้นญาติอดีตปลัด พม. “พุฒิพัฒน์” และสาวคนสนิท เปิดแถลงข่าวแจง ทั้ง 2 คนคบหาเป็นแฟนยังไม่ใช่สามีภรรยา แต่มีแผนจะใช้ชีวิตบั้นปลายร่วมกัน เผยเหตุน้อยใจ คิดสั้นเพราะพยายามติดต่อขอคำปรึกษา จากบุคคลหนึ่ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เคยบ่น “ผมไม่ได้ร่วมมือกับเขา ผมสั่งให้หยุด แต่เขาไม่ฟังผม ผมพลาดที่ไว้ใจคนผิด” ติงข่าวบิดเบือนว่าฆ่าตัวตายหนีผิด เพราะยังไม่มีหน่วยงานไหนชี้มูลความผิด ญาติเปิดจดหมายลาตายโชว์สื่อ สั่งเสียเฉพาะเรื่องงานศพ ลูกน้องย้ำอดีตปลัด พม.เป็นคนดี ยันความบริสุทธิ์ ผลนิติเวชระบุ สาเหตุการตายมาจากระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ส่วนสารพิษต้องรอผลแล็บอีก 45 วัน ขณะที่หมอ รพ.ปทุมธานี เผยอาการ “วาสนา ตะเภาพงษ์” ผู้ป่วยรู้สึกตัวและพ้นวิกฤติแล้ว แต่ยังต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจใกล้ชิดในห้องไอซียูกรณีนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กินยาพิษผสมไวน์ฆ่าตัวตาย พร้อม น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ อายุ 49 ปี สาวคนสนิท ภายในห้องนอนบ้านเลขที่ 106/105 หมู่บ้านชวนชื่นกอล์ฟฟลอร่าวิลล์ (ชวนชื่นบรู๊คไซด์) หมู่ 8 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี จนคนขับรถมาหาที่บ้านพบความผิดปกติ ตัดสินใจพังประตูบ้านเข้าไปตรวจสอบ พบนายพุฒิพัฒน์เสียชีวิตอยู่บนเตียง ส่วน น.ส.วาสนาอาการสาหัส รีบนำส่งโรงพยาบาลปทุมธานีล้างท้องได้ทันรอดชีวิตหวุดหวิด เบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากการถูกอายัดทรัพย์ และดำเนินคดี หลังถูกกล่าวหาคดีทุจริตเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจากโรงพยาบาลปทุมธานี เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 มิ.ย. นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.โรงพยาบาลปทุมธานี กล่าวถึงอาการ น.ส.วาสนา ตะเภาพงษ์ สาวคนสนิทของนายพุฒิพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ที่กินยาหวังฆ่าตัวตาย ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่าแพทย์ทำการล้างท้องและรักษาตามอาการ ตอนนี้ผู้ป่วยรู้สึกตัวและพ้นวิกฤติแล้ว แต่ยังต้องดูแลต่อเนื่องอย่างใกล้ชิดในห้องไอซียู ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าอาการจะดีขึ้นจนสามารถออกไปพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยปกติ หรือสามารถออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ตอนนี้ยังต้องรักษาตามอาการไปก่อน ทีมแพทย์ต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจด้วย ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ นางกรณิการ์ นนทผล น้องสาวของนายพุฒิพัฒน์พร้อมญาติจำนวนหนึ่ง เดินทางมารับศพนายพุฒิพัฒน์หลังถูกส่งมาชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตเพิ่มเติมตามคำร้องขอของญาติ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ติดใจการเสียชีวิตของนายพุฒิพัฒน์หรือไม่ ทางญาติไม่ตอบ และไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนญาติจะรับศพนายพุฒิพัฒน์ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดพรหมวงศาราม (วัดหลวงพ่อเณร) ซอยประชาสงเคราะห์ 27 แขวงและเขตดินแดง กทม.ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ผลชันสูตรศพนายพุฒิพัฒน์ แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นว่า ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลว สำหรับสารพิษในร่างกายที่นายพุฒิพัฒน์กินเข้าไป ต้องรอผลการตรวจจากห้องแล็บปฏิบัติการอีกประมาณ 45 วัน เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดว่าผู้ตายกินสารพิษชนิดไหนเข้าไปแน่ที่ศาลา 4 วัดพรหมวงศาราม เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานรดน้ำศพและสวดพระอภิธรรมศพนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ อดีตปลัด พม.วันแรก เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ท่ามกลางบิดา มารดา ญาติพี่น้องมาร่วมงานรวมถึงผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร พม.ที่เคยร่วมงานด้วย อาทิ นายวิเชียร ชวลิต อดีตปลัด พม. นางญาณี เลิศไกร อดีตอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) นายอนุสันต์ เทียนทอง อดีตอธิบดีกรมผู้สูงอายุ นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายอภิชาติ อภิชาติบุตร หัวหน้าผู้ตรวจราชการ พม. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรี และนายอิระวัชร์ จันทรประเสริฐ ที่ปรึกษานายพุฒิพัฒน์ระหว่างพิธีรดน้ำนายพนาไพร นราแก้ว ที่ปรึกษากฎหมายนายพุฒิพัฒน์ และ น.ส.พัชรภรญ์ ตะเภาพงษ์ น้องสาว น.ส.วาสนา นายสมภพ นนทผล น้องเขยนายพุฒิพัฒน์ น.ส.ปริศนา ฤทธิ์เทพ และ น.ส.ฐาปนีย์ ศิริสมบูรณ์ ลูกน้องคนสนิทของผู้ตาย เปิดแถลงข่าวชี้แจงถึงเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด นายพนาไพร กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาบิดเบือนไม่ตรงกับความเป็นจริงและสร้างความเสียหาย เนื่องจากระบุว่าทั้ง 2ท่านเป็นสามีภรรยากัน ยืนยันว่าทั้งสองเพียงคบหากันอย่างเปิดเผย แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสหรือแต่งงาน เป็นการไปมาหาสู่กันหรือเรียกสถานะนี้ว่าแฟนก็ได้ ส่วนประเด็นที่สื่อระบุเป็นการฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิดก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากข้อกล่าวหาทุจริตไม่ว่าจะ ปปง. ป.ป.ช. หรือกระทั่ง พม. ยังไม่มีหน่วยงานใดชี้มูลความผิดนายพนาไพรกล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุของการฆ่าตัวตาย ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมาจากความน้อยใจเรื่องติดต่อบุคคลหนึ่งเพื่อชี้แจงขอคำปรึกษา แต่ไม่ใช่การติดต่อเพื่อหาช่องทางหนีคดี หลายครั้งไม่มีเสียงตอบรับเลย จนอาจทำให้เกิดความเครียดและกดดันที่ไม่สามารถติดต่อกับบุคคลดังกล่าว อาจเป็นประเด็นให้คิดสั้นได้ ส่วนจะเป็นบุคคลใดท่านไม่ได้พูดถึง ก่อนหน้าเสียชีวิต 3 วันตนพูดคุยกับนายพุฒิพัฒน์ในห้องส่วนตัวที่บ้าน นายพุฒิพัฒน์กล่าวเพียงสั้นๆ ไม่ได้ระบุพาดพิงถึงบุคคลใดว่า “ผมไม่ได้ร่วมมือกับเขา ผมสั่งให้หยุด แต่เขาไม่ฟังผม ผมพลาดที่ไว้ใจคนผิด” ถามว่ากรณีนี้มองว่าเป็นการเสียชีวิตเพื่อตัดตอนหรือไม่ นายพนาไพรกล่าวว่า น่าจะเป็นการตัดตอนความคิดที่เกิดจากความน้อยใจ ไม่น่าจะเกิดจากบุคคลอื่นมาตัดตอนด้านนายสมภพ นนทผล น้องเขยนายพุฒิพัฒน์ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ขอยืนยันว่านายพุฒิพัฒน์ยังบริสุทธิ์อยู่ เพราะทุกองค์กรที่ตรวจสอบยังไม่มีมติชี้ข้อกล่าวหาว่าท่านมีความผิด ขณะที่ น.ส.พัชรภรญ์ ตะเภาพงษ์ น้องสาว น.ส.วาสนากล่าวว่า นายพุฒิพัฒน์หรือพี่หม่องเป็นคนดี ช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด ทั้ง 2 คนเพียงคบหากันและวางแผนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกันในบั้นปลายหลังเกษียณอายุราชการที่บ้านเกิดเหตุ ส่วนอาการล่าสุดของพี่สาวขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู รู้สึกตัว ตอบสนองบ้าง และยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วน น.ส.ปริศนา ฤทธิ์เทพ และ น.ส.ฐาปนีย์ ศิริสมบูรณ์ ลูกน้องคนสนิทนายพุฒิพัฒน์กล่าวพร้อมกันด้วยสีหน้าเศร้าโศกน้ำตาคลอเบ้าว่า นายของตนไม่เคยหนีความผิด ที่ผ่านมาเสียสละเป็นผู้ให้มาตลอด เขาไม่เคยทำผิด และเชื่อมั่นว่านายของตนไม่ได้ทุจริต เพราะสิ่งที่ท่านทำช่วยเหลือโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน อยากให้รักษาเกียรติส่วนนี้ของท่านไว้ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่ามาจากความน้อยใจที่อาจปรึกษาผู้ใหญ่ไม่ได้ แต่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เราดูแลการใช้ชีวิตของท่านเป็นส่วนใหญ่ ในจดหมายที่ท่านอดีตปลัดทิ้งไว้ระบุในเรื่องการจัดงานศพ ให้ตั้งศพไว้ที่วัดนี้ 2 วัน เผาวันที่ 3 ให้ทำแบบเรียบง่าย ไม่ขอ พระราชทานเพลิงศพใดๆทั้งสิ้น และไปลอยอังคารที่ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทราหลังการแถลงข่าวชี้แจง ญาตินำจดหมายลาตายของนายพุฒิพัฒน์ที่เขียนสั่งเสียด้วยลายมือเรื่องการจัดงานศพมาโชว์ให้สื่อมวลชนได้เห็นข้อความทั้งหมดมีแต่เรื่องการจัดงานศพ ไม่ได้เขียนระบุถึงสาเหตุการฆ่าตัวตาย ทั้งนี้งานสวดอภิธรรมศพนายพุฒิพัฒน์จะมีไปถึงวันที่ 1 ก.ค. ก่อนจะฌาปนกิจในวันที่ 2 ก.ค. เวลา 17.00 น.
