เป็นข่าวใหญ่ตำรวจไทยจับตัวนายชิเกฮารุ ชิราอิ หรือ “ลุงโกโบริ” สมาชิกระดับแกนนำสาขาของแก๊ง “ยามากูจิ” แก๊งยากูซ่าขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น หากย้อนไปปี 2548 นายชิเกฮารุ ร่วมกับสมาชิกในแก๊ง ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนจ่อยิงศีรษะนายคาซิฮึโกะ โอโตเบะ หัวหน้าแก๊ง “คามิยะ” แก๊งคู่อริเป็นข่าวใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นหลังก่อเหตุได้หลบหนีมาอาศัยอยู่กับภรรยาคนไทยในลพบุรี ตลอดเวลาที่อยู่ในเมืองไทย นายชิเกฮารุ ทำตัวกลมกลืนไปกับสังคม ใช้ชีวิตเรียบง่าย ทำให้ชาวบ้านไว้เนื้อ เชื่อใจคดีลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกลางปี 2559 สตม.บุกจับนายชูเฮย์ โยชิซาว่า ตัวการใหญ่แก๊ง “ยามากูจิ” แก๊งเดียวกับนายชิเกฮารุ ที่ก่อเหตุขู่กรรโชก ฉ้อโกงเงินเหยื่อกว่า 600 ราย มูลค่าความเสียหายสูงหลายล้านเยน แล้วหลบหนีมาอยู่กับภรรยาชาวไทยในคอนโดหรูย่านพระรามเก้า หลายคนเคยเห็นยากูซ่าในหนังญี่ปุ่น แต่ไม่คิดว่า “ยากูซ่า” จะอยู่ใกล้ตัวเรา หรือแฝงตัวอยู่ในสังคม แก๊งยากูซ่า เป็นชื่อเรียกองค์กรอาชญากรรมในประเทศญี่ปุ่น คล้ายกับแก๊งมาเฟียในหลายประเทศ เกี่ยวข้องธุรกิจผิดกฎหมาย ตั้งแต่การพนัน ธุรกิจค้าประเวณี ค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติด และการฟอกเงินอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนนักการเมืองในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลนอกกฎหมายในญี่ปุ่น แก๊งยามากูจิ ถือเป็นแก๊งยากูซ่าใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 30,000 คน มีจุดกำเนิดในเมืองโกเบ และขยายสาขาไปจนทั่วญี่ปุ่น มีเครือข่ายในเอเชีย ยุโรป อเมริกา และประเทศไทยหัวหน้าคนปัจจุบันคือ นายชิโนดะ เคนอิจิ หรือ สึคาสะ ชิโนบุ ผู้ที่ตำรวจญี่ปุ่นขนานนามให้เป็น “ชายที่อันตรายที่สุด” เคยสร้างผลงานไว้สมัยเป็นรองหัวหน้าแก๊ง ถือเป็นผู้นำรุ่นที่ 6 ของแก๊งยามากูจิ นายชิโนดะ มีบุคลิกเฉพาะตัว ชอบสวมหมวกคล้ายอัลคาโปน เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ของอเมริกา หลังได้รับการแต่งตั้งในปี 2548 ได้ปฏิรูปองค์กรให้ทันสมัย มีลักษณะคล้ายบริษัทขนาดใหญ่ มีแผนปฏิบัติการและโครงสร้างองค์กรอย่างชัดเจน ก้าวออกจากธุรกิจมืดเข้าสู่ธุรกิจถูกกฎหมายมากขึ้นจากข้อมูลของนิตยสารฟอร์จูนของสหรัฐอเมริการะบุว่า แก๊งยามากูจิ มีรายได้ในปี 2557 ถึงแปดหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.86 ล้านล้านบาท รายได้หลักมาจากธุรกิจมืด อาทิ การค้ายาเสพติด ธุรกิจค้าบริการทางเพศ และการลักลอบค้าอาวุธสงครามนอกจากธุรกิจผิดกฎหมายแล้ว เพื่อความอยู่รอดในโลกสมัย ใหม่ แก๊งยามากูจิเข้าไปลงทุนในธุรกิจถูกกฎหมายหลายประเภท เช่น ธุรกิจบันเทิงภายใต้ชื่อบริษัท “โกเบอาร์ต” และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แก๊งยามากูจิ ยังทำกิจกรรมการกุศล และมีส่วนช่วยเหลือประชาชนในเหตุการณ์สึนามิ เป็นการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในองค์กร เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสมาชิกแก๊งยากูซ่าคือ ลายสัก หรือ “อิเระซิมิ” เป็นการสักด้วยมือ ไม่ใช้เครื่องสัก ช่างสักจะใช้เข็มที่ทำด้วยไม้ไผ่หรือแท่งเหล็ก แต้มสีลงบนผิวหนังโดยตรง ต้องทำโดยช่างสักที่มีความชำนาญเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในการสักมีราคาแพง และมีความเจ็บปวดมากกว่าการสักทั่วไปมาก การสักใช้เวลาหลายปีกว่าจะสมบูรณ์ ประเพณีการสักของยากูซ่า แสดงความอดทน มุมานะ ไม่เกรงกลัวความเจ็บปวด ลวดลายที่นิยมเป็นตัวละครในเทพนิยายโบราณที่มีความเก่งกล้าแข็งแกร่ง รูปมังกร หรือสัตว์มงคลต่างๆ บริเวณที่สักเริ่มจากต้นคอลงไปถึงหัวเข่า ในชีวิตประจำวันยากูซ่าจะไม่แสดงรอยสักให้คนทั่วไปได้เห็น อีกประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของยากูซ่าคือการตัดนิ้ว หรือ “ยูบิสึเนะ” เมื่อยากูซ่าทำงานพลาด หรือกระทำผิดต่อหัวหน้าหันกลับมาดูที่ประเทศไทย จากข้อมูลของหน่วยงานด้านความมั่นคงพบว่า อาชญากรข้ามชาติมักเดินทางเข้ามาหลบซ่อนตัวในเมืองไทยเนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยม และมีนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ปัจจุบันมีพลเมืองจาก 49 ประเทศทั่วโลกเข้ามาประเทศไทย โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้ภายหลังก่อเหตุหรือคาดว่าจะถูกออกหมายจับ อาชญากรข้ามชาติจึงหลบหนีออกนอกประเทศ และเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยค่าครองชีพที่ไม่แพงเกินไป และค่านิยมของคนไทยที่เป็นมิตรกับคนต่างชาติ ทำให้การเข้ามาหลบซ่อนตัวในไทยถือเป็นทางเลือกที่ดี รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้ความสำคัญและเน้นย้ำหน่วยงานด้านความมั่นคงมาโดยตลอดปัจจุบันการคมนาคมที่สะดวกขึ้น เทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่พัฒนา เชื่อมโยงทุกประเทศทั่วโลกเข้าด้วยกัน ทำให้อาชญากรรมข้ามชาติมีความเกี่ยวข้องกับหลายประเทศ ปัจจุบันอาชญากรสั่งการข้ามประเทศ หรือใช้เครือข่ายการสื่อสารที่ทันสมัยหลอกคนในอีกประเทศหนึ่ง หลังโอนทรัพย์สินที่ได้ไปอีกประเทศหนึ่ง เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งโรแมนซ์สแกม ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้การติดตามจับกุมอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายประเทศ เครือข่ายการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ การจับกุมตัวนายชิเกฮารุ ชิราอิ ถือเป็นผลมาจากความร่วมมือของเครือข่ายระหว่างประเทศ หลังทางการญี่ปุ่นได้ข้อมูลยืนยันว่านายชิเกฮารุเข้ามาหลบซ่อนตัวในประเทศไทยพ.ต.อ.เคสุเกะ โฮซากะ เลขานุการเอก และเจ้าหน้าที่ประสานงานอาวุโสฝ่ายตำรวจ ประจำสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เข้าพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขอให้ทางการไทยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญรายนี้ผบ.ตร.ได้สั่งให้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี จากการทำงานร่วมกับญี่ปุ่นใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดลพบุรี ติดตามจับกุมตัวนายชิเกฮารุได้อย่างรวดเร็ว ได้รับความชื่นชมจากทางการญี่ปุ่นหลังจับกุม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและร่วมสอบปากคำขยายผล เพื่อสืบหาถึงผู้ให้การช่วยเหลือ ให้ที่พักพิง รวมไปถึงขบวนการแก๊งยากูซ่าที่แฝงตัวอยู่ในประเทศไทย ขุดรากถอนโคนแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติการเข้าพักของคนต่างด้าว เจ้าของผู้ให้เช่าพักต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบตามที่กฎหมายกำหนด การให้ที่พักพิง ให้ความช่วยเหลือคนต่างด้าวผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา รวมไปถึงอาจเป็นอันตรายต่อสังคมส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ.ทีมข่าวอาชญากรรม