จักรทิพย์แถลงชุดสืบสวนนครบาล-สุพรรณบุรี ร่วมจับยาบ้า 4.96 ล้านเม็ด พร้อม 2 ผู้ต้องหาเครือข่ายลูกชายโจ ด่านช้าง อดีตนักค้ายาเสพติดที่ถูกวิสามัญฯไปเมื่อปี 39 สอบสวนผู้ต้องหาเปิดปากเช่าตึกแถวใน อ.อู่ทอง เป็นที่พักยา อาศัยจังหวะเทศกาลปีใหม่ ลอบขนยา 10 ล้านเม็ด มาเก็บไว้ และเพิ่งส่งมอบให้ลูกค้าไปบางส่วน อีกรายที่ชุมพร ตำรวจภาค 8 จับคาด่าน 4 ผู้ต้องหาซุกเฮโรอีน 10 กก.ลงใต้ หลังไปเที่ยวปีใหม่ที่แม่สายจับยาบ้า-เฮโรอีนมโหฬารรับปีใหม่ โดยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันแถลงจับกุมนายเกรียงศักดิ์ วงษ์สุวรรณ หรือใหม่ ดอนซ่าส์ อายุ 22 ปี และนายวิเชียร หรือเจ เนตรทอง อายุ 25 ปี พร้อมยาบ้า 4,960,000 เม็ด ปืนซีแซด 9 มม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 14 นัด รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ดัดแปลงเป็นแบบตู้แช่เย็น ทะเบียน ฒผ 4361 กรุงเทพมหานคร รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บษ 547 สุพรรณบุรี รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ ทะเบียน 6 กล 2266 กรุงเทพมหานคร รถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่น 200 เอสเอ็กซ์ สีส้ม ทะเบียน ศฉ 3171 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับกุมได้ที่ตึกแถวเลขที่ 1608/148 หมู่ 5 ต.อู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ชุดสืบสวนนครบาลได้เฝ้าติดตามสังเกตการณ์นายเกรียงศักดิ์ ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยประสานกับ พล.ต.ต.กษณะ แจ่มสว่าง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี และนายชนพหล ส่งเสริม นอภ.อู่ทอง จนทราบว่าเป็นเครือข่ายของนายโจ ดอนซ่าส์ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) อายุประมาณ 30 ปี ลูกชายนายสุพฤกษ์ หรือสุเทพ เรือนใจมั่น ฉายาโจ ด่านช้าง ที่ถูกวิสามัญฯไปเมื่อปลายเดือน พ.ย.2539 ใช้เครือข่ายพ่อ ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และจังหวัดใกล้เคียงรวมถึง กทม. โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะแบ่งหน้าที่อย่างเป็นระบบ โดยมาเช่าบ้านเลขที่ 1608/148 หมู่ 5 อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ไว้เป็นที่เก็บยาเสพติด จากนั้นจะใช้รถกระบะดัดแปลงเป็นตู้แช่เย็นขนส่งยาเสพติด อำพรางการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ โดยชุดจับกุมที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรม พบผู้ต้องหาทั้งคู่ขับรถกระบะดัดแปลงมาจอดที่หน้าบ้าน ได้แสดงตัวตรวจค้นพบปืนพกอยู่ในรถ ก่อนเข้าตรวจค้นภายในบ้าน พบยาบ้าจำนวนตามข้างต้น อยู่บริเวณห้องโถงชั้นล่างจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนรับสารภาพ ไม่ได้ประกอบอาชีพใด และไม่ได้เรียนหนังสือ เพิ่งหันมารับงานจากนายโจ ดอนซ่าส์ ผู้ว่าจ้างนำยาบ้าไปขายต่อในพื้นที่ภาคกลางโดยทำมาแล้วประมาณ 5 เดือน เมื่อทำงานสำเร็จแต่ละครั้งนายโจ ดอนซ่าส์ จะจ่ายค่าจ้างเป็นการไปเที่ยวเตร่แบบหรูหรา ก่อนหน้านี้ เพิ่งขนยาบ้าเข้ามาพักไว้ที่ตึกแถวแห่งนี้ 10 ล้านเม็ด และเพิ่งขนย้ายออกไปส่งลูกค้าบางส่วน จากนี้จะขยายผลสืบสวนต่อ เบื้องต้นดำเนินคดีทั้งคู่ ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า สำหรับยาเสพติดลอตดังกล่าวเป็นของกลุ่มว้าใต้ ลำเลียงยาเสพติดมาจากภาคเหนือ น่าจะเข้ามาในช่วงก่อนปีใหม่ หรือหลังปีใหม่ โดยฉวยโอกาสช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นำยาบ้าดังกล่าวกระจายลงสู่พื้นที่ภาคใต้และภาคกลาง คาดว่ามีการจำหน่ายยาบ้าออกไปแล้วบางส่วนกว่า 6 ล้านเม็ดมีรายงานด้วยว่า สำหรับปืนยี่ห้อซีแซดที่ตรวจยึดได้นั้นผ่านมือมาหลายทอด โดยมือแรกเป็นของตำรวจยศ ด.ต.รายหนึ่ง ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่ซื้อปืนสวัสดิการตำรวจ โดยจะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดนี้หรือไม่วันเดียวกัน ที่ด่านตรวจบ้านพละ ต.เขาไชยราช อ.ปะทิว จ.ชุมพร พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 นายณรงค์ พลละเอียด ผวจ.ชุมพร พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พล.ต.ฐิติ ติตถะสิริ ผบ.มทบ.44 และ ผบ.บก.ควบคุม มทบ.44 นายพีระ กาญจนพงศ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 และนายสราวุธ ภักดี ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 8 พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.บ้านมาบอำมฤต ทำหน้าที่หัวหน้าด่านตรวจบ้านพละ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอิบรอเฮ็ม อาแว อายุ 40 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 73/1 หมู่ที่ 3 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส น.ส.นูรตัสณิม อูเซ็ง อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ที่ 3 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส น.ส.นู (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาว อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และนายแว (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ชาว อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมของกลางเฮโรอีนตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลก บรรจุถุงพลาสติกใส 26 ห่อ รวมน้ำหนัก 10.4 กิโลกรัม ซุกซ่อนไว้ในช่องลับที่ดัดแปลงทำไว้เป็นพิเศษใต้เบาะที่นั่งด้านหลังคนขับในรถกระบะมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ 4 ประตู ทะเบียน 1 กว 4359 กรุงเทพมหานครพล.ต.ท.สรศักดิ์กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมขณะขับรถคันดังกล่าวผ่านด่านตรวจบ้านพละ ถนนเพชรเกษม ฝั่งถนนขาล่องใต้ มีนายอิบรอเฮ็ม อาแว เป็นคนขับ สอบสวนนายอิบรอเฮ็มรับสารภาพ ขับรถพาทั้งหมด ซึ่งเป็นเครือญาติไปเที่ยวเทศกาลปีใหม่ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ขากลับลักลอบขน เฮโรอีนไปส่งที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีนายทุนคนหนึ่งเป็นคนว่าจ้างแต่กลับถูกจับกุมเสียก่อน สำหรับนายอิบรอเฮ็ม อาแว พ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 30 มี.ค.59 ในคดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีด หลังออกมาหันไปค้าและรับจ้างขนยาเสพติดโดยเฉพาะเฮโรอีน ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดตั้งแต่เปิดด่าน ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนขยายผลเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิด เพื่อจะตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
