(ภาพประกอบ)เริ่มเฟสแรกจตุโชติ-หินกอง, แบ่งเบารถพหลโยธิน-ลงมือปลาย 61พล.อ.วิวรรธ สุชาติ ประธานคณะกรรมการ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (บอร์ด กทพ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางพิเศษสู่จังหวัดภูมิภาค ว่า ขณะนี้ กทพ.มี 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสายอุดรรัถยา-พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 42 กม. มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อปลายทางพิเศษสายอุดรรัถยา หรือทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด ที่ อ.บางไทร พระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันออกแบบเบื้องต้นเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่จากการประเมินปริมาณจราจรจากทางด่วนบางปะอินฯ เชื่อมเส้นทางต่อขยายจนสุดโครงการ พบว่าปริมาณจราจรไม่มาก จึงให้ชะลอโครงการไว้ก่อนโครงการที่ 2 สายฉลองรัช-สระบุรี มีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อทางด่วนฉลองรัชที่ด่านเก็บค่าผ่านทางจตุโชติ แล้วมุ่งไปทางทิศตะวันออกตัดผ่านถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ จากนั้นเลี้ยวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือตัดผ่านถนนลำลูกกา กม.22+500 และทางหลวงชนบท นย.3001 ผ่านสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ตัดถนนรังสิต-นครนายก บริเวณ กม.59+800 แล้วไปทางเหนือตัดผ่านถนนสุวรรณศร กม.116+000 เลียบไปตามแนวถนน 3222 เชื่อมมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา และทางเลี่ยงเมืองสระบุรี บรรจบกับถนนมิตรภาพ กม.10+700 อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยมอบให้ กทพ.เร่งรัดก่อสร้างเฟสแรกจากจตุโชติถึงแยกหินกอง เพื่อรับรถจากฝั่งตะวันออก เดินทางมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน เพื่อแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนพหลโยธิน ขณะที่ถนนมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-สระบุรี-โคราช จะรับรถจากฝั่งตะวันตก มุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน จึงเป็นการเสริมโครงข่ายการเดินทางให้สมบูรณ์มากกว่าเป็นเส้นทางคู่แข่งอย่างที่หลายคนกังวล คาดว่าปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้.