คนไทยยุค Thailand 4.0 ไม่เพียงใช้ประโยชน์จากสื่อดิจิตทัลสร้างธุรกิจ “Startup” ในขณะที่คนท้องถิ่นก็ใช้เฟซบุ๊กสร้างงานสร้างรายได้ เพิ่มเติมจากอาชีพที่ทำกินมายาวนาน....!ดั่งเช่น....ชาวบ้านที่มีอาชีพการตกกุ้งขายสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ในพื้นที่ 4 ตำบล ริมแม่น้ำตรัง อ.กันตัง จ.ตรัง ประกอบด้วย ต.ย่านซื่อ ต.โคกยาง ต.คลองสุ และ ต.บางหมากเมื่อวันก่อน นายมนตรี สังข์ขาว ผู้สื่อข่าว นสพ.ไทยรัฐ ได้โอกาสลงเรือไปกับ ไต๋ต้น หรือ นายนพดล หงส์เกิด นักตกกุ้งมือฉมัง...แห่งบ้านโคกยาง เพื่อออกไปพบกับสมาชิกนักตกกุ้งร่วมอาชีพ“ไต๋ต้น” เล่าว่า ก่อนมาจับอาชีพนี้ ทำงานมาสารพัด ทั้งเปิดร้านมือถือและร้านแต่งรถ จยย.เก่า แต่ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนในแม่น้ำตรังค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกุ้งในธรรมชาติ กับที่กรมประมงปล่อยเพิ่มเติมที่สำคัญคนตกกุ้งที่นี่ยึดอุดมคติในการอนุรักษ์แหล่งน้ำและสัตว์น้ำ หากตกได้กุ้งตัวเล็ก หรือมีไข่เต็มท้อง จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่มองโลกสวย แต่เพื่อให้ทำอาชีพนี้ทำอย่างถูกวิธี และไม่ทำลายธรรมชาติวันนี้แม่น้ำตรังจึงยังมีกุ้งแม่น้ำ กุ้งก้ามกราม กุ้งนาง ให้เราได้ตก ร้านอาหารและโรงแรมจึงให้การต้อนรับสั่งซื้อจนไม่พอขาย ราคากุ้งไซส์เล็ก อยู่ที่ 380 บาท ไซส์กลางเป็นไซส์นิยม 500 บาทและไซส์ใหญ่ 650 บาทจากรายได้ที่เกิดขึ้นนี้ ช่วงหลังๆจึงดึงดูดคนวัยทำงานประจำออกมาหาลำไพ่พิเศษช่วงยามว่างไต๋ต้น บอกด้วย แต่เนื่องจากรายได้จากอาชีพนี้มีไม่แน่นอน จึงหยิบจับสโลแกนคนตกกุ้งที่ว่า “ไม่ใช่มืออาชีพ แต่ทำเป็นอาชีพ” เปิดเฟซบุ๊ก “NoppadolHongkerd” ให้บริการจัดทริปตกกุ้งแบบเช้าไปเย็นกลับกับแบบทริปกลางคืน โดยมีเรือ เบ็ด อุปกรณ์ ไว้ให้บริการ พร้อมเตาย่างกุ้ง ลังน้ำแข็ง เพาเวอร์แบงก์ ใช้ชาร์จโทรศัพท์มือถือ แม่น้ำตรังจึงเสมือนเป็นโฉนดที่ดินมีค่า หรือหม้อข้าวที่ช่วยให้ชาวบ้านมีกินมีใช้ขอเพียงอย่าทุบทำลายแต่ร่วมอนุรักษ์ให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน...!มนตรี สังข์ขาว