สธ.จัดให้ฟรี 4 แสนคนทั่วประเทศ เพียง 2 เข็มอุ่นใจกันไว้ดีกว่าแก้เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการการให้บริการวัคซีนเอชพีวีในนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5เขตกรุงเทพฯ ว่า โรคมะเร็งปากมดลูกพบมากเป็น อันดับ 2 ในเพศหญิงของไทย โดยจะพบผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 6,000 รายต่อปี และเสียชีวิตประมาณ 3,000 รายต่อปี ซึ่งการป้องกันตั้งแต่แรกเริ่มจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยการฉีดวัคซีนป้องกัน มะเร็งปากมดลูก หรือวัคซีนเอชพีวี ให้เด็กหญิงในช่วงอายุ 10-12 ปี ซึ่งมีการศึกษาแล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากเป็นการป้องกันตั้งแต่ยังไม่ติดเชื้อหรือก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ซึ่งขณะนี้ได้บรรจุวัคซีนเอชพีวีลงในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค เพื่อฉีดให้กับนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ทั่วประเทศ ประมาณ 4 แสนคนฟรีนพ.เจษฎากล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจะเริ่มจากในพื้นที่กรุงเทพฯก่อน ซึ่งมีนักเรียนหญิงชั้น ป.5 ประมาณ 33,962 คน จากโรงเรียนทุกสังกัดรวม 875 แห่ง โดยจะต้องรับวัคซีน ทั้งสิ้น 2 เข็ม โดยเข็มแรกจะเริ่มฉีดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ดำเนินการโดยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค สำนักอนามัย กรุงเทพฯ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขตที่ 13 ซึ่งจะจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปดำเนินการฉีดวัคซีนให้โรงเรียนแต่ละแห่ง จากนั้นก็จะขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดต่อไป ส่วนการรับวัคซีนเข็มที่สอง จะต้องทิ้งช่วงห่างจากเข็มแรกประมาณ 6 เดือน คือ ประมาณเดือน ม.ค.2561 และขณะนี้ได้มีการจัดซื้อ วัคซีนเรียบร้อยแล้วราคาอยู่ที่เข็มละกว่า 200 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าราคาที่ยัง ไม่ได้ต่อรองหลายเท่าตัว จึงขอเชิญชวนครูและผู้ปกครองอนุญาตให้บุตรหลานเข้ารับบริการวัคซีน เพื่อลดอัตราผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ ส่วนข้อห้ามในการฉีดวัคซีนคือห้ามฉีดในกลุ่มที่เคยมีประวัติการแพ้วัคซีน ส่วนผลข้างเคียงถือว่ามีน้อย มีอาการบวมแดงบริเวณจุดที่ฉีด หรือมีอาการเป็นไข้ ตัวร้อน ซึ่งพบได้ในบางรายเท่านั้นนพ.วงวัฒน์ ลิ่วลักษณ์ รอง ผอ.สำนักอนามัย กรุงเทพฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมานักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.ได้รับวัคซีนมาแล้ว 2 ปี ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าวัคซีนมีความปลอดภัยสูง.
