การต่อยอดและขยายธุรกิจของครอบครัวที่บรรพบุรุษได้ริเริ่มก่อตั้งขึ้น เป็นหนึ่งในความท้าทายของผู้บริหารรุ่นใหม่ โดยเฉพาะสาวขาลุยอย่าง “ใยธนา ทิมสุวรรณ” ทายาทคนโตของครอบครัว ที่ได้ถูกวางตัวให้เข้ามาดูแลกิจการหินของจริงด้วยความตั้งใจ พร้อมเปิดใจถึงการนำแนวความคิดของคนรุ่นพ่อแม่และคนรุ่นใหม่มาใช้เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพใยธนา หรือ อาม ลูกสาวคนโตในจำนวน 4 คน ของ ธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย และ รศ.ดร.ใยอนงค์ ทิมสุวรรณ อดีตอาจารย์วิศวกรโยธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าถึงที่มาของตัวเองว่า อาม จบ ร.ร.สาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาเกษตรศาสตร์ แล้วไปต่อปริญญาโท Design Innovation ด้านอินทีเรีย ที่ De Montfort University ประเทศอังกฤษ พอเรียนจบมีโอกาสทำงานเป็นพนักงานบริษัทเพียงไม่กี่เดือน ก็ออกมาช่วยงานกิจการโรงโม่หิน (ทรัพย์ไพวัลย์ การศิลา) ของที่บ้านในจังหวัดเลย และ ณ ธารารีสอร์ท ที่เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ชีวิตตอนนี้จึงอยู่ที่จังหวัดเลย เพื่อดูแลกิจการโรงโม่หินเป็นส่วนใหญ่“ในการทำงานตอนแรก อาม เข้าไปเรียนรู้งานว่าบริษัทมีโครงสร้างและการทำงานอย่างไร โดยเรียนรู้งานกับพนักงานทุกระดับ จนพอรู้ระบบ จึงเข้ามาดูแลในเรื่องการเงิน งานที่โรงโม่หินอาจจะมีปัญหาจุกจิกหลายอย่าง เช่น รถบรรทุกพอไหม, ฝนตกไฟดับ ฯลฯ เป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมแก้ไข งานที่ทำดูเหมือนลุยๆแบบผู้ชาย แต่ “อาม” ก็ชอบนะคะ สนุกดี “อาม” ชอบทำงานภาคสนาม อาจเป็นเพราะเรียนทางด้านสถาปัตย์มา เราก็ลุยๆอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีน้องชายที่จบวิศวะมาช่วยอีกคน ซึ่งเขาจะดูเรื่องเครื่องยนต์ เครื่องจักร แต่ “อาม” ก็ดูในรายละเอียดทั่วไป รวมทั้งการเงิน โดยมีคุณพ่อเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำ โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารคน การสื่อสารกับลูกน้อง ส่วนงานรีสอร์ต เป็นธุรกิจของคุณแม่ “อาม” ก็ได้เข้าไปช่วยด้วย โดยอาศัยความรู้ด้านสถาปัตย์ที่เรียนมา”สาวรุ่นใหม่ไฟแรง วัย 27 ปีคนนี้ เล่าต่อว่า เข้ามาช่วยงานที่บ้านได้เพียงปีเศษ แต่ได้ประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้ตนเองโตขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องความรับผิดชอบ รวมไปถึงการทำงานต้องใจเย็น งานที่ทำอยู่นี้ หลายคนคิดว่าไม่น่าจะสนุกนัก แต่ “อาม” ชอบ เป็นงานที่ท้าทายดี ท้าทายในส่วนที่เราต้องควบคุมงานหลายส่วน ลูกน้องหลายร้อยคนก็เป็นผู้ชาย งานทุกอย่างต้องอาศัยเวลา พิสูจน์ฝีมือ ซึ่ง “อาม” มองว่า เราแค่เป็นลูกเจ้าของกิจการคงไม่พอ เราต้องทำให้พนักงานเห็นด้วยว่า เรามีความตั้งใจทำงาน และทำงานหนักเหมือนเขา ลุยทุกจุดทุกที่ได้เหมือนกัน การที่พ่อและแม่ยอมรับในการทำงานของ “อาม” เท่านี้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จเบื้องต้นแล้วในฐานะของผู้บริหารรุ่นที่ 2 อาม บอกถึงแนวการทำงานว่า ในการบริหารงาน “อาม” มองว่า คนรุ่นใหม่ก็มีความคิดอะไรใหม่ ทำอะไรเร็ว และมั่นใจ อยากประสบความสำเร็จเร็วๆ ซึ่งก็มีส่วนทั้งข้อดีและข้อด้อย อาจขาดความรอบคอบ “อาม” เลยเอาแนวคิดการทำงานของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ช้าแต่ชัวร์ รวมถึงการบริหารคน มาผสมผสานกันให้เหมาะกับงานของเรามากที่สุดค่ะ......สาวรุ่นใหม่สายลุยคนนี้ พร้อมพิสูจน์ฝีมือแล้ว!
