“สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ทรงน้อมรำลึกถึง “สมเด็จย่า” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ระหว่างพระราชทาน สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนเปิดงานแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” คอลเลกชัน “Autumn-Winter 2025/26” ณ Fürst Henry Arena โดยทรงยกย่องสมเด็จย่าว่า ทรงเป็น The Best Iconic ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก และ The First Thai Designer ดีไซเนอร์ไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ทรงเป็นผู้สร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้ชาติไทย ผ่านการออกแบบ 8 ชุดไทยพระราชนิยม “เป็นช่วงที่เหนื่อยเนอะ เหนื่อยทั้งครอบครัว แล้วมันหนักหนาทั้งครอบครัว พระองค์ท่านก็เปรียบเสมือนผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เลี้ยงเรามานาน ท่านหญิงคิดว่าวันนี้เป็นวันที่สำคัญ คือพูดกับตัวเองว่าโอเค งานนี้คืองานที่เรารัก แล้วก็เป็นอาชีพ ยังไงเราต้องบอกตัวเองว่า ต้อง Move on เราจะเศร้าอย่างนี้ไม่ได้ เพราะตอนแรกก็ฟูมฟายใช้ได้เหมือนกัน แล้วทูลหม่อมพ่อกับทูลหม่อมป้าบอกว่า พระองค์ท่านสบายแล้ว ท่านโอเคแล้ว เราก็บอกว่าเออจริง เราก็อยากให้ทุกคนนึกถึงพระองค์ท่านในบริบทว่า ทรงเป็น The Best Iconic ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก คือเราอยากให้คนมองอย่างนั้น พระองค์ท่านชอบของสวยๆงามๆ แล้วเราก็พูดกับตัวเองว่าเราก็ต้องการทำงาน แล้วทุกอย่างมันไม่ควรจะหยุดนิ่ง ก็คือ back on track และ back on work และทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม งานวันนี้ทุกท่านจะได้เห็นรูปสมเด็จย่าที่ทุกคนอาจจะไม่เคยเห็น น่าจะเป็นวันที่น่าจะซึ้งใจที่สุด สำหรับท่านหญิง พระองค์ท่านคือ The First Thai Designer ถ้าไม่ใช่ดีไซเนอร์ พระองค์ท่านคงไม่ครีเอต 8 แบบชุดไทยพระราชทาน” พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ รับสั่งถึงแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบคอลเลกชันล่าสุดว่า “สำหรับเรา กีฬาขี่ม้าหรือบังคับม้า คือโจทย์แห่งการท้าทาย, ความเร็ว และความเฉียบขาดในการตัดสินใจ ขณะเดียวกัน แต่ละท่วงท่าของการบังคับม้า ล้วนเต็มไปด้วยความภูมิฐาน งามสง่า นำมาซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานออกแบบได้อย่างไม่มีวันหมด ตั้งแต่เสื้อผ้า ไปจนถึงเครื่องหนัง, เครื่องประดับ และอัญมณี”องค์ดีไซเนอร์ทรงนำแรงบันดาลพระทัยจากความโก้หรู และความภูมิฐานในกีฬาขี่ม้า มาเป็นแนวทางการออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย ตอบรับกับวิถีการดำเนินชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ ทุกแง่มุมอันเกี่ยวกับกีฬาม้าอันฉับไวและงามสง่า ถูกนำมาหลอมรวมกับธรรมเนียมการตัดเย็บสุดประณีต และมรดกทางการสร้าง สรรค์ของแบรนด์ เพื่อแสดงออกถึงบุคลิกความกล้า และสง่างามในความเป็นผู้หญิง คอลเลกชันล่าสุดอาศัยแรงบันดาลใจจากท่วงท่าสง่างามของนักขี่ม้า, ความแข็งแกร่งของตัวอาชา และเครื่องแต่งกายตามธรรมเนียมนิยมของกีฬาท้าความเร็ว โดยถูกนำมาตีความใหม่เป็นชิ้นเด่นของฤดูกาล ตั้งแต่คอร์เซ็ตที่แฝงกลิ่นอาย “กอธิก โรแมนติกซิสม์” โครงชุดดุจเสื้อเกราะ, “แจ็กเกตไอริส” นิยามใหม่จากชิ้นคลาสสิกของนักขี่ม้า จับคู่กับกางเกงขายาวที่ดัดแปลงจากกางเกงขี่ม้าสองแบบ ทั้งกางเกงสะโพกพอง และกางเกงรัดรูปประกบรัดเข่า นอกจากนี้ยังมีเสื้อเคปที่พลิ้วไหว และเสื้อโค้ตที่มีโครงชัดเจน เพิ่มความดรามาติกด้วยปกคอกว้างและปกคอตั้งสำหรับผู้หญิง บ่งบอกถึงความอ่อนโยนและความหาญกล้าที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว รังสรรค์ผ่านเนื้อผ้าคุณภาพสูง อาทิ ผ้าวูล, ผ้าไหม และผ้าฝ้ายหลากเฉด มาในโทนสีขรึมแบบเดียวกับเครื่องแบบกีฬาขี่ม้า เช่น สี Off White, สีเทา, ม่วงอมน้ำตาลจนถึงดำ, แดงเบอร์กันดีถึงน้ำตาล ตลอดจนเฉดสีต่างโทนอย่างน้ำเงินกรมท่า และเขียวกากี โดยมีลายพิมพ์, ลายปัก รวมถึงงานเย็บตะเข็บบนนวมเดินลายบนวัสดุหนัง และงานปั๊มลาย ร่วมกันเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับม้าได้อย่างงดงาม ขณะที่ต้นแบบชุดกีฬานักขี่ม้าชาย ถูกรังสรรค์สู่เสื้อผ้าบุรุษ เพื่อมอบความกลมกลืน โดยสร้างความสมดุลระหว่างศิลปะตัดเย็บสูทคลาสสิกกับงานออกแบบร่วมสมัยที่ให้ความคล่องตัว ไม่ว่าจะเป็น เสื้อนอกตัวยาว, เสื้อ trench, สูทกระดุมสองแถว, สูทตัวเดี่ยว ไปจนถึงเสื้อกั๊กตัวยาว และเสื้อเชิ้ต ในส่วนของกางเกงขายาวดัดแปลงจากกางเกงขี่ม้าสองแบบเช่นเดียวกัน เพิ่มความพิเศษให้กับเสื้อเชิ้ตผ้าไหมผสมคอตตอน ด้วยลายพิมพ์ภาพเขียนฝีพระหัตถ์รูปม้าขององค์ดีไซเนอร์ อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่