หากจะเริ่มกันที่แม่พิมพ์ พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ทรงเจดีย์ องค์ในคอลัมน์วันนี้ คนรักพระสมเด็จเห็นแว่บเดียวก็จะอุทานว่า “พิมพ์องค์เจ๊แจ๋ว”แล้วถ้าเป็นคนรักพระสมเด็จระดับแฟนพันธุ์แท้ก็จะจำแนกได้อีกว่า ถ้าใช้ทฤษฎี “นิรนาม” สำนักท่าพระจันทร์ ที่แยกทรงเจดีย์ไว้ห้าแม่พิมพ์ พิมพ์นี้คือ พิมพ์ที่ 2ทรงเจดีย์พิมพ์นี้เอง ที่เป็นองค์ครู สอนให้เรียนรู้องค์ประกอบ “พระสวย” จากจุดเด่น เส้นสังฆาฏิคมชัด เส้นขอบจีวรเล็กเรียวคม อ่อนช้อย แยกจากเส้นสังฆาฏิขึ้นไปจดซอกพระกัจฉะ (รักแร้) ขวาและพระเพลาแบบขัดสมาธิราบ ที่แยก ออกจากกัน เห็นพระบาทล่างเป็นเค้าตั้งแต่ข้อพระเพลา ไปถึงปลายพระบาทชัดเจนวงการยึดระดับความสวยสุดของพระสมเด็จ วัดระฆัง...ด้วยองค์นี้ และหากเจอเส้นสายลายพิมพ์องค์ไหน ติดให้เห็นแค่เป็นเค้าร่องสังฆาฏิหนึ่งถึงสองเส้น ก็จุ๊ปาก ฮือ!กัน เห็นที่มาของพระสมเด็จองค์ละล้านไปถึงสิบล้านองค์เจ๊แจ๋ว ราวสิบปีที่แล้ว ผมถาม “เฮียหนึง” ปรีดา อภิปุญญา เจ้าของพระตัวจริง ในงาน แต่งลูกชายคุณวิวัฒน์ อุดมกัลยารักษณ์ “เฮียประเมินเท่าไหร่?” “ร้อยล้าน” เฮียหนึงว่าเมื่อเวลาผ่านเลยมา ราคาที่คุยๆกัน...ก็ว่ากันไปถึง 200 ล้าน แต่ยังไม่ได้ยินว่า ขายกันจริงเฮียหนึง เจ้าของทรงเจดีย์องค์เจ๊แจ๋ว หรือพิมพ์ใหญ่องค์ลุงพุฒ องค์โป้ยเสี่ย (ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์) สองท่านนี้ล้วนแต่ระดับ “เจ้าสัว” เงินถัง ราคาสุดท้าย...จะเท่าไหร่...คงต้องรอลุ้นกันไปขณะที่มีจดจารไว้ในหนังสือ พระเครื่องศรีวสุนธรา เป็นหลักฐาน เปลี่ยนมือจากภรรยา คุณมนตรี ไปอยู่กับคุณวิชัย คิงเพาเวอร์ พิมพ์ใหญ่องค์ขุนศรี 120 ล้าน เกศบัวตูมองค์คุณมนตรี 80 ล้าน เมื่อราวๆสิบปีที่แล้วราคาพระขนาดนี้อย่าเผลอคิดว่าอยู่กับความสวยขององค์พระเท่านั้น แต่ต้องรวมองค์ประกอบอื่นอย่างน้อยอีกสองข้อ ข้อแรกชื่อยี่ห้อ เจ้าของ ข้อสอง วันเวลาที่โยงประวัติพระไว้ยาวนาน สี่ห้าสิบปีใครมีหนังสือมาตรฐานวงการ เล่มพรีเชียส สเปเชียล ของอาจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ หยิบออกมาเทียบเคียงทรงเจดีย์สององค์ องค์เจ๊แจ๋ว เนื้อขาวอมเหลือง และองค์ที่สองเนื้อขาว ที่มีร่องรอยลอกรัก สององค์นี้เป็นของเฮียหนึง ถือเป็น “องค์ครู” สวยลดหลั่นกันเล็กน้อยขออนุญาต และให้รายละเอียดลงลึกไปถึงเส้นขอบจีวรสององค์ของเฮียหนึง สะดุดตรงจุดเริ่มของเส้นเป็นปมหนา และค่อยๆเรียวลงไปเล็กเท่าปลายเข็ม แล้วจางหายเข้าช่องรักแร้ดูองค์ในคอลัมน์ นอกจากต้นเส้นขอบจีวรเป็นปมหนา ยังติดเส้นขอบพระอุทร (ท้อง) ซ้าย นับได้สามเส้น ละสายตาไปที่พระเกศ มีตำแหน่ง “ป่อง” กลางพระเกศด้านซ้าย นี่เป็นจุดสังเกตสำคัญของรักพระขั้นเซียนเทียบกันทุกเส้นสาย...องค์พระ เส้นซุ้มองค์ในคอลัมน์เส้นซุ้มติดเต็ม ขณะอีกสององค์ครู เส้นซุ้มมีรอยปริแยกทุกตำแหน่งด้านหน้า ถือว่าคะแนนไล่เลี่ย...เทียบด้านหลัง องค์เจ๊แจ๋ว รอยปริแยกขอบข้างชัด บริเวณกลางหลังทื่อ องค์ที่สองเด่นที่หลุมร่อง รอยปริแยกชัด ขณะองค์ในคอลัมน์ นอกจากมีรอยปริแยกสี่ด้าน องค์รวมแผ่นหลัง ปรากฏหลุมร่อง รอยเหนอะ เข้าสูตรหลังรอยย่นตะไคร่น้ำ เข้าโฉลกหลังวัดระฆัง เติมเสน่ห์ให้ตรึงตรากว่าองค์อื่นๆเทียบเคียงให้พอมโนๆกันไป อยากให้เรื่องครบสูตรจึงถามที่มา เจ้าของเล่า เจรจาจบจ่ายเงินครึ่งราคา พายุฝนก็มาครืนๆ เปียกปอนทั้งคนขายคนซื้อ ครึ่งชั่วโมงฝนหาย เดินลุยน้ำกดเอทีเอ็มจ่ายครบ เป็นเจ้าของคนใหม่ จึงขอให้ฉายาให้จดจำวันเวลาได้องค์นี้ว่า “องค์ฝนแสนห่า”ขอบันทึกช่วยจำ นี่คือทรงเจดีย์องค์งามแถวหน้าองค์ใหม่ เจ้าของเป็นคนธรรมดา คงต้องสะสมวันเวลาประวัติพระอีกนาน วันสองวันนี้ถ้ากล้ามาถาม สักห้าสิบล้าน อาจจะไปเปิดเซฟธนาคารเอามาคุยกัน.พลายชุมพลคลิกอ่านคอลัมน์ “ปาฏิหาริย์จากหิ้งพระ” เพิ่มเติม