"...ข้าพเจ้าทราบตระหนักว่า ข้าพเจ้ามีหน้าที่และความรับผิดชอบประเทศอย่างสูง และการปฏิบัติราชการแผ่นดินนั้นเป็นภาระใหญ่ยิ่ง ที่ต้องอาศัยทั้งสติปัญญาและความรู้ความสามารถพร้อมมูล ข้าพเจ้าจะต้องเพียรพยายามศึกษาปฏิบัติฝึกฝนตนเองต่อไปอีกอย่างมาก เพื่อให้สามารถเหมาะสมกับหน้าที่ตามที่ทุกคนมุ่งหวัง...ในโอกาสอันพิเศษนี้ จึงใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายได้เป็นกำลังใจสนับสนุนข้าพเจ้า และได้ตั้งความปรารถนาร่วมกันกับข้าพเจ้า ที่จะมุ่งมั่นประกอบกรณียกิจ ด้วยความสามัคคีพร้อมเพรียง และด้วยความสุจริตยุติธรรม เพื่อยังความเจริญมั่นคงและความร่มเย็นเป็นผาสุกให้บังเกิดแก่ชาติ ประเทศ และประชาชนยั่งยืนสืบไป”...พระราชดำรัสดังกล่าวของ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ที่พระราชทานไว้ในงานสโมสรสันนิบาต ที่รัฐบาลจัดถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสที่ได้ทรงดำรงพระอิสริยศักดิ์เป็นสยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2515 คงสะท้อนได้ดีถึงพระราชปณิธานอันแน่วแน่มาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ที่จะทรงงานเพื่อความผาสุกของอาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระราชวิริยอุตสาหะ และพระราชหฤทัยมุ่งมั่น เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยตลอดมานับเป็นเวลาต่อเนื่องกันมาหลายทศวรรษแล้วที่ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบากพระวรกาย ล้วนเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์ความผาสุกสงบแก่ประชาชน นำความเจริญไพบูลย์และความมั่นคงมาสู่ประเทศ พระราชกรณียกิจด้านการทหารและการบินทรงดำรงพระยศทางทหารของ 3 เหล่าทัพ คือ พลเอก, พลเรือเอก และพลอากาศเอก และได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการทหาร โดยทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในหลายพื้นที่ รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่บริเวณรอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ที่เขาล้าน จังหวัดตราด ซึ่งแม้เป็นพระราชภารกิจที่ต้องทรงเสี่ยงภยันตราย แต่ด้วยความที่ทรงเป็นชายชาติทหาร และเป็นพระราชภารกิจเพื่อความผาสุกของพสกนิกร และเพื่อมนุษยธรรมต่อผู้ประสบทุกข์ยาก จึงทรงปฏิบัติพระราชภารกิจดังกล่าวโดยเต็มพระราชกำลัง รวมทั้งการเสด็จฯไปทรงเยี่ยม และพระราชทานขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจฝ่ายความมั่นคง ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา ทรงทราบดีว่าเยาวชนในถิ่นทุรกันดารยังด้อยโอกาสในการศึกษา จึงพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนการจัดสร้างโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง นอกจากเสด็จฯไปทรงวางศิลาฤกษ์ด้วยพระองค์เอง และทรงรับโรงเรียนไว้ในพระราชูปถัมภ์แล้ว ยังพระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาทันสมัย พร้อมพระราชทานคำแนะนำ และทรงส่งเสริมให้โรงเรียนดำเนินโครงการอันเป็นประโยชน์แก่นักเรียน เช่น โครงการอาชีพอิสระ เพื่อให้เยาวชนใช้ความรู้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนและครอบครัวได้เมื่อจบการศึกษา พระองค์ยังเสด็จฯไปทรงเยี่ยมโรงเรียน และทรงติดตามผลการศึกษา ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงพระเมตตาห่วงใยเยาวชนผู้ด้อยโอกาส ได้ทรงรับโรงเรียนไว้ในพระราชูปถัมภ์อีก 8 แห่ง โดยทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์อย่างสม่ำเสมอ ในด้านอุดมศึกษา ได้เสด็จฯไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยต่างๆปีละเป็นจำนวนมากต่อเนื่องทุกปี และในปี 2552 ได้มีพระราชดำริให้จัดตั้ง “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนผู้ยากไร้ แต่เรียนดีและมีความประพฤติดี ให้ได้ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ ต่อเนื่องไปจนจบปริญญาตรี และจนถึงขั้นสูงสุดตามความสามารถของผู้รับทุน เพื่อสร้างทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพ พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และการสาธารณสุข “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงตระหนักว่าสุขภาพพลานามัยอันดีของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญของการสร้างสรรค์ทรัพยากรบุคคลอันมีคุณภาพไว้เป็นพลังในการพัฒนาประเทศ จึงทรงสนพระราชหฤทัยในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข เมื่อเสด็จพระราชดำเนินออกทรงเยี่ยมราษฎรในส่วนภูมิภาค ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คณะแพทย์ที่ตามเสด็จตรวจรักษาโรคแก่ประชาชน และทรงรับผู้ป่วยที่ยากไร้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ตลอดมา เมื่อรัฐบาลน้อมเกล้าฯถวายโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช เนื่องในพระราชพิธีอภิเษกสมรส จำนวน 21 แห่ง ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ก็ทรงพระอุตสาหะเสด็จฯไปทรงวางศิลาฤกษ์ ทรงเปิดโรงพยาบาล ทรงตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่ ณ โรงพยาบาลต่างๆโดยสม่ำเสมอ พร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนให้มีอุปกรณ์การแพทย์เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย เพื่อสามารถให้บริการที่ดีแก่ประชาชน และทรงรับผู้ป่วยยากไร้ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชดำรัสแก่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ความตอนหนึ่งว่า “ทุกคนที่ทำงานให้แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชจะต้องไม่ลืมว่า โรงพยาบาลแห่งนี้กำเนิดขึ้นจากความมุ่งปรารถนาอย่างแรงกล้าของคนไทยทั่วราชอาณาจักร ที่ต้องการจะเห็นผู้ที่อยู่ในท้องถิ่นทุรกันดารทุกหนแห่งได้รับความเอาใจใส่รักษาพยาบาลเป็นอย่างดี ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วถึงเสมอหน้ากัน” หนึ่งในพระราชภารกิจเร่งด่วนคือ พระราชทานพระบรมราโชบาย ในการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย พร้อมติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เพื่อจะได้พระราชทานความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชน พระราชกรณียกิจด้านการศาสนาเมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2509 ก่อนเสด็จฯไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และมีพระราชศรัทธาทรงออกผนวชในพระบวรพระพุทธศาสนา เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2521 ระหว่างทรงผนวช ได้ทรงศึกษาและปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด นอกจากนั้นได้เสด็จฯแทนพระองค์ไปปฏิบัติพระราชกิจทางศาสนาเป็นประจำเสมอ เช่น ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรตามฤดูกาล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม, เสด็จฯแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายกฐินหลวงตามวัดต่างๆ เมื่อปี 2553 ทรงทำการบินเที่ยวบินมหากุศล เที่ยวบินพิเศษของบริษัทการบินไทย นำคณะพุทธศาสนิกชนไปสักการะปูชนียสถานสำคัญ และยังทรงบริจาคพระราชทรัพย์เพื่อประโยชน์ทางศาสนาอีกมากมาย และปี 2555 เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2555 ทรงทำการบินเที่ยวบินมหากุศล เส้นทางไปกลับกรุงเทพฯ-ขอนแก่น นำคณะพุทธศาสนิกชน 113 คน ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าวิเวกธรรม อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น รายได้จากการจำหน่ายบัตรและเงินบริจาคสมทบจากผู้มีจิตศรัทธา ได้ทูลเกล้าฯถวายเพื่อสมทบทุน “มูลนิธิการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” นอกจากนี้ยังทรงร่วมกิจกรรมส่งเสริมคริสต์ศาสนา, ศาสนาอิสลาม, ศาสนาพราหมณ์ฮินดู และศาสนาซิกซ์พระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศทรงพระวิริยะอุตสาหะประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญๆในการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่างๆเสมอมา ได้เสด็จฯแทน “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ไปทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีปต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในการเสด็จฯไปต่างประเทศทุกครั้งจะทรงเตรียมพระองค์ด้วยการศึกษาเกี่ยวกับประเทศที่จะเสด็จฯไปทรงเยือนอย่างละเอียด ระหว่างประทับอยู่ในประเทศดังกล่าว ทรงมุ่งสร้างสานเจริญทางพระราชไมตรี และสนพระราชหฤทัยที่จะเสด็จฯไปทอดพระเนตรกิจการ และศึกษากิจกรรมต่างๆ เพื่อทรงนำกลับมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ เช่น เสด็จฯไปทรงเยี่ยมชมกิจการทหารและการจราจรทางอากาศ เมื่อทรงเยือนประเทศในทวีปอเมริกาใต้ และทอดพระเนตรสถานที่สำคัญทางศาสนา, ศิลปวัฒนธรรม, กิจกรรมด้านอุตสาหกรรม และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน เมื่อทรงเยือนประเทศภูฏานอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้บุคคลสำคัญๆของต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศเข้าเฝ้าฯในโอกาสที่มาเยือนประเทศไทยอยู่เสมอ พระราชกรณียกิจด้านการสังคมสงเคราะห์“พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงพระกรุณาห่วงใยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนที่ด้อยโอกาสและขาดแคลน ได้ทรงพระอุตสาหะเสด็จฯไปทรงเยี่ยมชุมชนแออัดในกรุงเทพฯหลายแห่ง อีกทั้งทรงพระกรุณาพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภค, เครื่องกีฬา, เครื่องดับเพลิง พร้อมโปรดเกล้าฯให้กรมทหารในบังคับบัญชาของพระองค์ร่วมกับประชาชนพัฒนาสิ่งแวดล้อม ทั้งยังพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนโครงการของชุมชน เช่น โครงการพัฒนาเด็กเล็กที่ขาดแคลน และโครงการปราบปรามยาเสพติดในหมู่เยาวชนชุมชนแออัดคลองเตย เพื่อให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาสเติบโตเป็นพลเมืองดีและเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่าในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต เมื่อประเทศชาติประสบภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ ก็ได้พระราชทานพระราชานุเคราะห์แก่ราษฎรผู้ประสบภัยมาโดยตลอด พร้อมเสด็จฯไปทรงเยี่ยมในสถานที่ประสบภัยด้วยพระองค์เอง แม้ในพื้นที่ที่เสี่ยงมาก ทรงติดตามความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด พระราชทานกำลังใจ พร้อมพระราชทานอาหาร, น้ำ, ถุงยังชีพ และพระราชทานพระราชูปถัมภ์แก่เด็กกำพร้าอันเนื่องมาจากภัยพิบัติ ผู้ขาดที่พึ่ง ให้มีบ้านและการศึกษาที่ดี“เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”...พระปฐมบรมราชโองการเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 เป็นที่ประจักษ์ถึงพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ของ “พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว” ที่ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐานจะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ปกครองราชอาณาจักรไทยโดยทศพิธราชธรรมจริยา เพื่อความอยู่ดีมีสุขของปวงชนชาวไทย.ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะข้าพระพุทธเจ้า ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่