ตั้งใจเข้ามาช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว ชาญวุฒิ นพสันติ จึงเข้ามาเรียนรู้งานไปพร้อมๆกับการหาโอกาสใหม่ๆในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างฐานให้มั่นคงคุณนิก-ชาญวุฒิ นพสันติ ลูกชายคนกลางของครอบครัวนพสันติ เล่าถึงเส้นทางการทำงานของตนว่า ธุรกิจที่บ้านมีหลายอย่าง ธุรกิจแรกของที่บ้านคือทำจิวเวลรี ทำมานานแล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เศรษฐกิจซบเซา ยอดของจิวเวลรีตก คุณพ่ออยากทำอะไรเพิ่มเติม ก็เลยมาทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จากนั้นเห็นถึงโอกาสในธุรกิจร้านอาหาร จึงมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเหล่าเฮงลูกชิ้นปลา และตนเรียนจบปริญญาโท ด้านการเงินและการบริหารกองทุน ที่มหาวิทยาลัยรีเจนท์ ลอนดอน แล้วก็เข้ามาช่วยงานที่บ้านทันที โดยเข้าไปช่วยงานธุรกิจจิวเวลรี ทำได้ 3 เดือน รู้สึกว่าไม่ใช่ เลยโยกมาดูธุรกิจร้านอาหารและอสังหาริมทรัพย์แทน“ตอนนี้ผมก็ดูแลร้านก๋วยเตี๋ยวเหล่าเฮงลูกชิ้นปลา ซึ่งทางบ้านคุณแม่เคยทำธุรกิจลูกชิ้นปลาอยู่แล้ว เราเลยเอามาต่อยอด ทำร้านก๋วยเตี๋ยว สาขาแรกที่พุทธมณฑลสาย 3 ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นนี้ เราทำมา 16-17 ปีแล้ว ผมเข้ามาช่วยได้ 6-7 ปี เข้ามาดูแลเรื่องระบบการบริหาร พร้อมทั้งดูเรื่องการขยายสาขา จนปัจจุบันมี 6 สาขา คือพุทธมณฑลสาย 3, ราชพฤกษ์, สี่แยกไฟฉาย, รัตนาธิเบศร์, พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และสาขาพุทธสาคร นอกจากขยายสาขาแล้ว เรายังเพิ่มเมนูเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ ในบางสาขา และวันที่ 26 ส.ค.นี้ เราก็จะเปิดสุกี้ สาขาแรก ที่พุทธมณฑลสาย 3 แล้วจะรีแบรนด์เป็นสุกี้ใช้ชื่อ “เหล่าเฮงสุกี้” แต่ก็ขายลูกชิ้นปลาเหมือนเดิม แล้วก็มีหมูแดง หมูกรอบ มาลงด้วย ตอนนี้เราทำโรงงานใหม่อยู่ กำลังอยู่ในกระบวนการขออนุญาตครับ” ผู้บริหารไฟแรงคนนี้ยังเล่าต่อว่า นอกจากงานร้านอาหาร ตนยังเข้าไปดูโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ตอนนี้มีอยู่ 3 โครงการ คือโครงการ พีเรสซิเด้นท์ (เพชรเกษม-เศรษฐกิจ) โครงการพีเพลส (บางใหญ่-บางคูลัด) และโครงการพีเพลส (กันตนา-บางใหญ่)“เนื่องจากงานร้านอาหารได้วางระบบไว้แล้ว ทำให้ผมได้มาดูงานอสังหาฯที่ผมว่ามันสนุกและท้าทาย ซึ่งเราต้องอัปเดตเทรนด์ใหม่ๆ ทั้งเรื่องการตกแต่ง และเทคโนโลยีที่ต้องการของลูกค้ายุคสมัยนี้ ผมได้เรียนรู้งานตั้งแต่เริ่มต้นขออนุญาตจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ แรกๆก็ต้องลุยเองทุกอย่าง เมื่อมีทีมงานมากขึ้นจึงมีการกระจายงานแล้วเราเข้าไปตามเช็ก แต่ถ้ามีปัญหาก็ต้องเข้าไปดูด้วยตัวเอง ในการทำงานผมให้ความสำคัญกับพนักงาน โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร พนักงานเป็นคีย์หลักของการทำงานที่ต้องทำแทนเรา จึงดูแลพนักงานค่อนข้างดี มีสวัสดิการ ค่าแรงสูงกว่าค่าแรง ขั้นต่ำ จัดที่อยู่ให้เขาอยู่ฟรี กินฟรี เพราะถ้าไม่มีเขาเราก็ลำบากครับ ซึ่งความสำเร็จในงานของผม ไม่ได้วัดเป็นตัวเงิน แต่วัดที่ความสุขของการใช้ชีวิตแต่ ละวัน เราทำให้มันดี คนรอบข้าง พนักงานเรามีความสุข ผมเห็นพนักงานทำงานด้วยรอยยิ้ม ผมว่าประสบความสำเร็จแล้วครับ” ...นี่คือความสำเร็จในการทำงานของผู้บริหารหนุ่มคนนี้.
