“ทุกเช้าเย็นเห็นแต่หลานที่บ้านกร่ำ ม่วงกับคำกลอยจิตขนิษฐา เห็นเจ็บปวดนวดฟั้นช่วยฝนยา ตามประสาซื่อตรงเปนวงศ์วาน”จาก “นิราศเมืองแกลง” นิราศเรื่องแรกของ “สุนทรภู่” หรือ “พระสุนทรโวหาร” วัชรพล สารสอน ผอ.การท่องเที่ยวฯ สำนักงานระยอง ก็ชวน “คุณชาย 1” ไปรำลึกปู่ภู่เสร็จแล้วก็ท้าให้ไปลองอาหารพื้นถิ่น บ้านกร่ำ ร้านนี้ชื่อเก๋... “คำสิงห์โภชนา” ที่ไม่ได้เกี่ยวดองกับอดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิกที่มามีว่า...ลุงพลั้ง บ้างเรียก ทิดพลั้ง ชื่อจริง วิสูตร วงษ์ทิพย์รัตน์ เคยขับรถส่งน้ำแข็งและท้ายรถแปะชื่อ “คำสิงห์” คนเลยคุ้นชื่อนี้...ครั้นเปลี่ยนอาชีพมาเปิดร้านอาหารก็เอาคำท้ายรถเป็นชื่อร้านเสียเลย...ถึงวันนี้รามือให้ลูกหลานทำกันในครอบครัว เป็นที่คุ้นหูคุ้นปากชาวชุมชนละแวกนี้ “ร้านคำสิงห์” @บ้านกร่ำ ท้าให้ลอง...ความอร่อย.ไม่คุยละ...คุณชายขอเริ่มต้นเดินทางจากหลังสำนักงานเทศบาลตำบลสุนทรภู่ ไปตาม ถ.อุศเรน-ท่าราบ ผ่านสวนผลไม้ที่กำลังให้ผลตามฤดูกาล ผอ.วัชรพลจึงถือโอกาสพูดแทรกขึ้นมา“เรามีโครงการกินทุเรียนก่อนใคร...ไประยองเฟส 2 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ใครซื้อผลไม้ครบ 500 บาท ได้รับส่วนลดทันที 100 บาท จาก 23 สวนระยองที่เข้าร่วมโครงการเพื่อดึงคนมาเที่ยว สามารถสั่งจองก่อนมานั่งกินภายใต้บรรยากาศร่มไม้ชายสวนได้ทางออนไลน์ ติดต่อการท่องเที่ยวระยอง โทร.0-3865-5420”ระยะทางประมาณ 700 เมตรก็ถึงร้านซึ่งตั้งอยู่ซ้ายมือ ร่มรื่นด้วยไม้ใหญ่น้อยกลางสวน ลืมบอก...ใครมาเที่ยวอนุสาวรีย์สุนทรภู่แล้วอยากชิมอาหารอร่อยร้านนี้ ให้ไปตามซอยอุศเรน-ท่าราบ ซอย 13 สัก 800 เมตรทะลุออกถนนสายแม่ เลี้ยวซ้ายอีก 200 เมตรก็ถึงร้านคำสิงห์ขวามือร้านนี้ออกจะสับสนเล็กน้อยกับคนต่างถิ่น ตรงจุดสังเกตที่มีสวนผลไม้เหมือนๆกันตลอดทาง ทว่า...บรรยากาศที่เห็นมันแสนวิเศษสำหรับคนเมืองอย่างคุณชายที่มีแต่คนถือปืนแบกปูนไปโบกตึก กุ้งศรีกุลาผัดไข่เค็ม...พาเหรดความอร่อยภายในร้าน...ส่วนหน้ามีลูกชายทิดพลั้งคือ เสกสิทธิ์ วงษ์ทิพย์รัตน์ วัย 46 ปี ผู้รับช่วงต่อยืนรับออเดอร์พร้อมบริการกับลูกชาย ส่วนในครัวมีแม่กับเมียและลูกสาวเป็นมือปรุง ไม่ทันตั้งตัวเขาก็แนะนำให้ลองชิม “ยำหอยโข่งทะเล” หรือ “หอยโจงโดง” ซึ่งมีชุกตลอดปี ชาวประมงหาได้เรื่อยๆจากการดำและติดแหอวนลอบมาเมนูแรกจัดให้ลองเรียกน้ำย่อยและหอยชนิดนี้จะไปย่างจิ้มต้มยำทำแกงหรืออะไรก็ตาม แต่ “ต้องนำไปต้มให้เนื้อมันนุ่มยุ่ยก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วเนื้อจะแข็งโป๊กกินไม่ได้” เสกสิทธิ์บอกคงจริงกระมัง...หอยค่อนข้างนุ่มกรอบหนึบหนับ จนไม่อยากกลืนลงคอเพราะเสียดายอิอิ ส่วนความเปรี้ยวได้จากเครื่องยำมีมะม่วงซอยผสมน้ำมะนาว กับหัวน้ำปลาผสมน้ำตาลเรียกความเปรี้ยว เค็ม หวาน กลมกล่อม ได้แครอทบรรจงแต่งสีสันให้ดูน่ากินราวกับนั่งในเหลาดัง แกงคั่วหอยโข่งถึงเมนูจานเอก...ร้านคำสิงห์ยินดีนำเสนอ “แกงคั่วหอยโข่ง” ที่อาจหากินได้ทั่วไป แต่ให้ถูกปากแกงคั่วพื้นบ้านอาหารพื้นถิ่นต้องบ้านกร่ำเมืองแกลง ที่เมื่อต้มหอยจนเนื้อยุ่ยดีแล้ว จะใส่ในเครื่องแกงผสมกะทิ เหยาะน้ำปลาน้ำตาลเค็มหวานจนได้ที่ ใส่หน่อ “สำมะหรด” สำ เนียงคนยองหมายถึงหน่อสับปะรด ของแปลกสำหรับภูมิภาคนี้...ชิมแล้วแม่คุณเอ้ย! มันยกร่องตรงเนื้อหอยอมน้ำแกง กับน้ำแกงที่เข้มข้นถึงเครื่องชนิดคนยองบอก “เอาได้ฮิ” แปลว่า “อร่อย-ใช้ได้”“เป็นแกงคั่วหอยที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศเมื่อปี 2546 จากการประกวดระดับจังหวัดในประเภทแกงคั่วหอยสำมะหรด ครั้งนั้นเขาบังคับให้ใช้หอยแมลงภู่เท่านั้น” เสกสิทธิ์เล่าปนน้ำเสียงปลื้มเอามากๆ พล่าปลาสากทะเลอีกเมนูถูกดัดแปลงเป็น “แกงอ่อมหอยโข่งทะเล” ที่ไม่เหมือนอ่อมอีสาน ต่างกันตรงใส่กะทิตามด้วยผักสดที่เน้นกลิ่นยอดชะอม หน่อสำมะหรด ซอยใส่เป็นส่วนผสม แล้วก็ถั่วฝักยาว กับใบมะกรูดซอยให้หอมดับกลิ่นคาวหอยจากทะเล...จานนี้คุณชายขอบอก“เอาได้ฮิ”เช่นกันถัดต่อมา...เป็นเมนูบ้านๆ “พล่าปลาสากทะเล” เสกสิทธิ์คุยมีที่นี่ที่เดียว เริ่มจากแล่ปลาสากสดๆ แล้วนำไปหมักหัวเชื้อน้ำปลา บีบมะนาวเติมซีอิ๊วขาวน้ำตาลเล็กน้อยตัดหวาน จนเข้าเนื้อได้ตามต้องการ ถึงนำไปยำกับมะม่วงสด ใช้แครอทแต่งชวนกิน ซอยตะไคร้สมุนไพรไทยพร้อมใบมะกรูดใส่ขาดไม่ได้คือหอมแดงผักชีหอมโรยหน้า ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำปลามะนาวพล่าจานนี้แนมด้วยสายบัว แตงกวาเป็นผักจิ้ม ทางเลือกมีน้ำจิ้มให้สองชนิด คือ “น้ำเกลือ” คนถิ่นนี้เรียกแทนน้ำจิ้มซีฟู้ดไม่ใช่อย่างที่เห็นตามสถานพยาบาล อีกอย่างเป็น “น้ำจิ้มถั่ว” แบบคั่วเองไม่ใช้ถั่วตัด ออกหวานนำปนเค็มอมเปรี้ยว รสชาติคล้ายน้ำจิ้มแบบหวานทั่วไปเมนูแปลกอื่นๆร้านคำสิงห์ที่เสกสิทธิ์อยากให้คุณชายลองชิม...นี่เลย “ต้มข่าไก่น้ำใส” โอ้วววว...ไม่มีกะทิชูโรง ใช้ไก่บ้านต้มน้ำซุปไก่ผสมด้วยพริก ขี้หนูจะเผ็ดมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณ “ลูกโดด” ที่ใส่ แต่งกลิ่นและรสชาติด้วยกระวานหรือ “ข่าโคก ข่าโคม” เพียงนิดอย่ามากจะขมฉุนจัด บีบมะนาวกับหัวน้ำปลาที่ชาวบ้านทำและหมักไว้ในตุ่มข้างบ้าน...ตรงนี้ อย.ห้ามอ่าน หมึกกะตอยต้มน้ำดำ“สูตรที่ว่าอีสานมีเหมือนกันเรียก “ต้มไก่” ทั่วไปก็มีเรียก “ต้มยำไก่” แต่คนบ้านกร่ำเรียก “ต้มข่าไก่น้ำใส” ไม่ใส่กะทิแต่ใส่กระวานพืชตระกูลข่า” เสกสิทธิ์อธิบายเมนูมีอีกมาก เช่น “น้ำพริกไข่ปู” ใช้ไข่ปูล้วนๆ “หมึกกะตอยต้มน้ำดำ” ใช้หมึกที่ชาว ประมงได้มาสดๆ “กุ้งศรีกุลาผัดไข่เค็ม” ผัดจนไข่เค็มเกาะกุ้ง และ “ปลากะพงทอด” กรอบนอกนุ่มในจะใช้ปลาใบขนุน อินทรี ข้างเหลือง จะละเม็ดได้ทั้งนั้น ที่น่าชิม...“แกงไก่บ้าน” “หมึกผัดกะปิ” “ต้มปลาหวาน” คนกรุงเรียก “ต้มเค็ม” หรือ... ออเดิร์ฟ “ยำปูม้า” แต่ละเมนูเริ่มต้น 60-150 บาท จำไว้เลย...ไปทัวร์ “บ้านกร่ำ” ต้อง “ร้านคำสิงห์” ลูกหลาน “ปู่ภู่” รับรอง “จึ้ง” ไม่มีตำหนิ โทร.สอบถามที่ 0–3865–7685, 08–1577–1629... ร้านเปิด 11 โมง ถึง 3 ทุ่ม หยุดทุกวันพุธ...ฮิคุณชาย 1