จากการประมูลภาพวาดหัวหมี อายุกว่า 500 ปี ผลงานชิ้นเล็กๆ ของลีโอนาร์โด ดาวินชี ทุบสถิติการประมูลด้วยมูลค่า 395 ล้านบาท เมื่อไม่นานมานี้ ได้สร้างกระแสและแรงบันดาลใจให้ศิลปินและผู้หลงใหลงานศิลปะไม่น้อย เมื่อผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียง ยิ่งผ่านวันเวลา คุณค่าก็ยิ่งมากขึ้น มูลค่าของชิ้นงานก็สูงมากขึ้นไม่แพ้กันเพื่อเรียนรู้กระบวนการสร้างสรรค์ สะสม และรักษาผลงานเหล่านั้นให้คงคุณค่ายืนยาว ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ได้รวบรวมเคล็ดลับในหัวข้อ “The Art of Masterpiece ศิลปะในการดูแลรักษางานชิ้นเอกให้คงคุณค่ายืนยาว” ผ่าน 3 มุมมองของนักสร้างสรรค์ นักสะสม และนักอนุรักษ์ ได้แก่ อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร (นักสร้างสรรค์), ธีระ วานิชธีรนนท์ (นักสะสม) และ ขวัญจิต เลิศศิริ (นักอนุรักษ์) เอกอุแห่งแวดวงศิลปะของไทย ได้มาให้ความรู้และน่าจะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับศิลปิน ให้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเลือกสรรวัสดุ การจัดเก็บรักษา และการซ่อมแซมผลงานชิ้นเอกที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกให้คงคุณค่ายืนยาวอ.ปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2557 สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการคิดจนถึงคุณภาพของงาน เพื่อให้ชิ้นงานคงทนเมื่อถูกส่งต่อไปยังผู้ชื่นชอบผลงาน ทั้งนี้ คุณค่าของงานศิลปะเป็นเรื่องที่มากกว่าความสวยงาม หากงานศิลป์มีเรื่องราวที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่ไม่มีอะไรสามารถมาทดแทนได้ ก็จะเป็นที่ต้องการของนักสะสม ธีระ วานิชธีระนนท์ด้าน ธีระ วานิชธีระนนท์ นักสะสม/เจ้าของ 333 Gallery จากวิศวกรไฟฟ้ามาสู่นักสะสมผลงานศิลปะชั้นแนวหน้าของไทย กล่าวไว้ว่า ตนเก็บประวัติศาสตร์ งานที่สะสมเป็นผลงานที่เป็น signature ของศิลปิน และให้ความสำคัญกับการเก็บรักษา ผู้ที่รักในการสะสมผลงานศิลปะควรต้องศึกษาวิธีคงสภาพผลงานให้ยาวนาน ชิ้นงานไม่ได้จำกัดเพียงแค่ชิ้นงานที่สมบูรณ์ แม้แต่รูปสเกตช์ (งานร่าง) ก็มีคุณค่าเป็น masterpiece เพราะเป็นลายแทงสู่ความสำเร็จของศิลปิน ปัจจุบันโลกเปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงผลงานอย่างเท่าเทียมในโลกออนไลน์ ศิลปินมีโอกาสได้พบและซื้อขายกับนักสะสมโดยตรง แต่แม้ว่าศิลปะดิจิทัลจะมีบทบาทมากขึ้น ก็ยังมีศิลปินจำนวนไม่น้อยและนักสะสมจำนวนมากที่ยังชื่นชอบสร้างสรรค์และสะสมชิ้นงานจิตรกรรม งานประติมากรรม รวมถึงต้องการอนุรักษ์ผลงานชิ้นที่ครอบครองให้ยั่งยืนเพื่อคงคุณค่าของงานศิลป์และเป็นประวัติศาสตร์ให้แก่คนรุ่นต่อๆไป ขวัญจิต เลิศศิริขณะที่ ขวัญจิต เลิศศิริ นักอนุรักษ์ชั้นครู บอกว่า มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าศิลปินสามารถซ่อมแซมผลงานของตนเองได้ อันที่จริงแล้วงานอนุรักษ์ต้องใช้ความเข้าใจในผลงานชิ้นนั้นๆ และต้องอาศัยเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานกับความสามารถในงานศิลป์ จึงจะสามารถสืบสานลมหายใจของผลงานศิลปะได้โดยไม่เอาตัวเองเข้าไปแทรกแซงชิ้นงานดั้งเดิม ทุกการสร้างสรรค์ผลงาน ศิลปินต้องคำนึงถึงปัจจัยภายใน คือ “คุณภาพของวัสดุ” และปัจจัยภายนอก คือ “สภาวะแวดล้อม” ไม่ว่าจะเป็นแมลง ความชื้น เชื้อรา รวมถึงวิธีการเก็บรักษาล้วนส่งผลต่อชิ้นงาน เมื่อผลงานป่วยจนเกิดความเสียหาย หน้าที่ของนักอนุรักษ์ไม่ใช่การทำให้ผลงานกลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง แต่จะเป็นการทำให้งานคงสภาพเดิมให้มากที่สุด เพราะหากเติมแต่งเข้าไป ‘คุณค่า’ ดั้งเดิมของชิ้นงานจะหายไป.