สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พยายามศึกษามายาวนานเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานที่เปลี่ยนจากการเป็นสัตว์บกไปเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำได้อย่างไรนั้น อาจบรรลุในอีกไม่ช้าหลังจากนักวิจัยชาวอาร์เจนตินาและชิลีได้ค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลโครงกระดูกอายุ 150 ล้านปีในปี พ.ศ.2557 ระบุว่าเป็นบรรพบุรุษของจระเข้ยุคปัจจุบันสายพันธุ์จระเข้โบราณนี้ชื่อว่า Burkesuchus mallingrandensis ถูกพบในแหล่งทับถมซากฟอสซิลแอนเดียน ใกล้กับเมืองมัลลิน กรันเด ในภูมิภาคปาตาโกเนีย ในชิลี ซึ่งต่อมาซากฟอสซิลปู่ของจระเข้ยุคใหม่ก็ได้ถูกส่งต่อให้กับนักบรรพชีวินวิทยาของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งอาร์เจนตินา ในกรุงบัวโนสไอเรส มาวิเคราะห์ พบว่าสิ่งที่ Burkesuchus mallingrandensis แสดงให้เห็นคือลักษณะเฉพาะที่ไม่มีจระเข้ตัวอื่น นั่นคือพวกมันเป็นจระเข้กลุ่มแรกที่เริ่มลงไปอยู่ในน้ำและลงไปในน้ำจืด ตามรายงานของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติแห่งอาร์เจนตินา เผยว่า จระเข้ปรากฏตัวในตอนต้นของยุคจูราสสิก ในช่วงเวลาเดียวกับการมาถึงของไดโนเสาร์ยุคแรก แต่ในเวลาไม่กี่ล้านปีจระเข้ก็ลงไปอยู่ในน้ำ การค้นพบซากฟอสซิลนี้ได้สนับสนุนแนวคิดที่ว่าอเมริกาใต้เป็นแหล่งกำเนิดวิวัฒนาการของจระเข้ รวมถึงซากฟอสซิลอื่นๆ โดยเฉพาะอาจไขความกระจ่างว่าจระเข้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เนื่องจากเมื่อประมาณ 200 ล้านปีก่อน จระเข้มีขนาดเล็กกว่านี้และไม่ได้อาศัยอยู่ในน้ำ.