เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญ ออฟ เดอะเยียร์ สำหรับการเชิญชวนให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อชาร์จพลังกาย พลังใจ กลับสู่ชีวิตสุขสำราญอีกครั้ง หลังการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19ไม่ใช่แค่คลายล็อก แต่ยังเป็นการคลายความอัดอั้นของคนที่อยู่บ้านยาวๆติดต่อกันมานานกว่า 3 เดือน ให้ได้ออกมาผ่อนคลาย ปลดปล่อย และช่วยพลิกฟื้นธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ให้มีความหวังที่จะมีโอกาส ฟื้นตัวกลับมาบูมอีกครั้ง แต่การกลับมาครั้งใหม่นี้ แน่นอนว่าไม่มีอะไรจะกลับไป เหมือนเดิม New Normal หรือชีวิตวิถีใหม่ จะเข้ามาแทนที่ในทุกภาคส่วนของสังคม รวมทั้งธุรกิจท่องเที่ยวด้วยด้านดีของโควิด-19 ต่อสถานที่ท่องเที่ยว คงหนีไม่พ้นการฟื้นตัวของธรรมชาติ ทะเลสวยขึ้น ป่าเขาเขียวขจีมากขึ้น ลำธาร แม่น้ำ ใสสะอาด โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งถือโอกาส รีโนเวต ปรับปรุงสถานที่ สร้างจุดขาย หรือออกแพ็กเกจโดนใจชวนให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง และที่สำคัญที่สุด คือ ชุมชน...ที่ต้องปรับตัวรับกับ New Normal อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง แม้จะเป็นการให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับบรรยากาศเดิมๆแบบ Local Experience ก็ตามกระทรวงวัฒนธรรมถือโอกาสนี้ น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนชุมชนกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ ด้วยพลังที่เรียกว่า “บวร” โดยอาศัยกลไกสำคัญของชุมชนไม่ว่าจะเป็นผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา และผู้บริหารสถานศึกษาหรือหน่วยงานราชการ สานต่อเป็นภาพความร่วมมือร่วมใจวิถีใหม่ แคมเปญ “โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน” หรือ “บวร On Tour” คือชื่อโครงการแบบเก๋ๆที่เน้นการใช้ต้นทุนมรดกวัฒนธรรมของชุมชนต่างๆ ทั้ง ภูมิสังคม, ภูมิปัญญา และ ภูมิทางวัฒนธรรม ของท้องถิ่นมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยว การพัฒนาสินค้า สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อการลดรายจ่าย สร้างรายได้ อย่างพอเพียง ด้วยศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนกฤษศญพงศ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม บอกว่า ไฮไลต์สำคัญของ “บวร On Tour” เป็นการนำเสนอการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ หยิบเอาเสน่ห์ของชุมชนขึ้นมาเป็นทั้งจุดเด่นและจุดขาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เทศกาล งานประเพณีวิถีชีวิต อาหารพื้นเมือง โดยออกแบบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับ “พลังบวร” ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชุมชน “ยกตัวอย่างง่ายๆครับ เราสนับสนุนให้คนในชุมชนเป็นเจ้าบ้านที่ดี บางคนอาจเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ที่มีไอเดียเก๋ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ โดยคนในชุมชนร่วมมือร่วมใจกัน ใครทำอะไรได้ดีก็มาช่วยกัน ทำอาหารอร่อย ทอผ้า ย้อมผ้า หรืองานหัตถกรรมพื้นบ้านที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้ ก็มาร่วมกันออกแบบเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวของชุมชนนั้นๆ”ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้แนะนำชุมชนคุณธรรมที่เหมาะกับการไปเช็กอิน ซึ่งหลายชุมชนมีเสน่ห์มากๆ เช่น ชุมชนคุณธรรมวัดบางสระเก้า จ.จันทบุรี : เสน่ห์ไม่จางที่บางสระเก้า ที่มีจุดขาย คือ สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย ไหว้พระขอพรหลวงพ่อเต่า นั่งซาเล้ง ตะลุยชุมชน ชมวิถีชีวิต 3 น้ำ 9 นา ชิมอาหาร 5 หมู่บ้าน, ชุมชนคุณธรรมบ้านสันทางหลวง จ.เชียงราย สัมผัสวิถีไทยวิถียอง ม่วนใจที่สันทางหลวง, ชุมชนคุณธรรมบ้านเกาะกลาง จ.กระบี่ “Muslim Friendly” เรียนรู้วิถีประมง ความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทิวทัศน์สวยงามของแม่น้ำกระบี่ วิถีชุมชนอันเรียบง่าย ลิ้มรสอาหารพื้นถิ่น, ชุมชนคุณธรรมบ้านกู่ จ.ศรีสะเกษ : ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์กูย ลิ้มรสอาหารพื้นบ้านที่โดดเด่น ผ้าไหมมัดหมี่ เที่ยวปราสาทปรางค์กู่ แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์ผ้าไหมลายลูกแก้ว, ชุมชนคุณธรรมบ้านดงห้วยหลวง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ชมต้นตาลอายุมากกว่า 100 ปี สืบสานวิถีการเคี่ยวน้ำตาลปึกแบบโบราณ ชมบ้านเรือนไทยอันทรงคุณค่า โบสถ์มหาอุตม์อายุ 200 ปีที่วัดจันทราราม, ชุมชนคุณธรรม วัดประเวศน์ภูผา จ.ปัตตานี ไหว้พระ เยี่ยมชม ผ้าทอจวนตานี ชิมขนมทองม้วน ล้อมวงกินอาหารปักษ์ใต้, ชุมชนคุณธรรมบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12 อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมืองแห่งสายหมอกแห่งขุนเขา ฯลฯ ซึ่งสามารถเข้าไปเช็กชื่อชุมชนต่างๆได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “เสน่ห์ชุมชน พลังบวร” “ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปให้กำลังใจขับเคลื่อนชุมชนคุณธรรมที่ จ.ศรีสะเกษ โดยเยี่ยมชมชุมชนคุณธรรมวัดสำโรงเกียรติ ซึ่งมีคอนเซปต์เป็นชุมชนแห่งความสุข หมู่บ้านวัฒนธรรมต้นแบบ ชนเผ่าเขมร เยี่ยมชมศูนย์การเรียนชุมชน ที่มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมสร้างรายได้ทั้งการทอผ้า ตะกร้าหวาย เสื่อต้นไหล ไข่เค็มดินภูเขาไฟ” ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมบอกและ ชุมชน บวร On tour ไม่ได้มีแค่ในส่วนภูมิภาคเท่านั้น ในส่วนของกรุงเทพมหานคร ก็มีเส้นทางท่องเที่ยวเสน่ห์ชุมชน อย่างเช่น ย่านกะดีจีน ชุมชน 3 ศาสนา ซึ่งนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ได้ไปเป็นประธานเปิดเส้นทางท่องเที่ยว ชุมชน ประวัติศาสตร์แห่งรัตนโกสินทร์ เสริมสร้างความสัมพันธ์ 3 ศาสนา ได้แก่ ชุมชนวัดกัลยาณมิตร ชุมชนกุฎีจีน ชุมชนกุฎีขาว ชุมชนวัดประยุรวงศาวาส ชุมชนโรงคาม และชุมชนบุปผาราม ปลัดกระทรวงวัฒนธรรมบอกว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้เก็บข้อมูลชุมชนคุณธรรมทั่วประเทศ ตั้งแต่ต้นปีที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนเข้าสู่ระยะผ่อนคลาย โดยพบว่าชาวบ้านของชุมชนคุณธรรม สามารถปรับตัวเข้าสู่วิถี New normal ได้อย่างดี และรับมือสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ฝ่าวิกฤติโควิด-19 นำไปสู่การสร้างโอกาส สร้างพลังความร่วมมือของชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังพบว่าเสน่ห์ชุมชนยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากจากการจัดโปรแกรมที่หลากหลาย จากนี้ไปจะมีการถอดบทเรียนและวิเคราะห์พฤติกรรม รูปแบบการใช้ชีวิตของคนในชุมชน ที่ได้รับอิทธิพล จากการใช้ชีวิตรูปแบบปกติวิถีใหม่ เพื่อให้เกิดการสร้างความตระหนักถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อด้วย.