สิงคโปร์แม้จะเป็นประเทศเกาะขนาดเล็กในภูมิภาคอาเซียน แต่ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูงของโลก สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้นำของสิงคโปร์แต่ละคนเน้นย้ำจุดยืนเรื่องการพัฒนาความยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้านนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศเมื่อ 60 ปีที่แล้วแต่ตอนนี้สิงคโปร์เผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ที่จะรักษาสถานะของ “ประเทศแห่งความยอดเยี่ยม” เอาไว้ ตามที่นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวไว้ในวันชาติเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เพราะตอนนี้โลกมีการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้นโดยเฉพาะด้านการค้าระหว่างประเทศที่สิงคโปร์ได้รับผลกระทบจากการตั้งกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานา ธิบดีสหรัฐฯ โดยสิงคโปร์โดนกำแพงภาษีสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ 10 เปอร์เซ็นต์ แม้จะน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่เมื่อมองว่า สิงคโปร์เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ถือว่าได้รับผลกระทบสูงผู้นำสิงคโปร์ประกาศว่า สิงคโปร์ต้องปรับตัวก้าวให้ทันโลกยุคใหม่ให้เร็วขึ้นหรือเข้าสู่ความยอดเยี่ยมรูปแบบใหม่ เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยรัฐบาลได้ลงทุนพัฒนาด้านการเงินและโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ การขยายต่อเติมท่าอากาศยานนานาชาติ “ชางงี” และท่าเรือ “ทูอัส” เพื่อรองรับผู้โดยสารและเรือบรรทุกสินค้าที่จะเพิ่มขึ้น และรัฐบาลสิงคโปร์ศึกษาด้านพลังงานนิวเคลียร์เผื่อเป็นทางเลือกในอนาคต หากรัฐบาลจำเป็นต้องใช้พลังงานนิวเคลียร์ในประเทศ และเน้นการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆด้วย โดยที่สิงคโปร์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศผู้นำด้านนวัตกรรมในเอเชียทั้งด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เทคโนโลยีเสมือนจริง หรือวีอาร์ และการพัฒนาเมืองอัจฉริยะตามนโยบายของนายลี เซียน ลุง อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2557แต่ปัจจัยสำคัญที่สุดคือ ทรัพยากรมนุษย์ นายหว่องได้เรียกร้องให้ชาวสิงคโปร์พัฒนาทักษะอยู่เสมอ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากขึ้นในแต่ละวัน และย้ำว่าประชาชนทุกคนมีบทบาทในการร่วมกันทำให้ประเทศสิงคโปร์เข้มแข็งขึ้น60 ปีที่ผ่านมา สิงคโปร์เน้นความเป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมในทุกด้านมาตลอด ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญกับความท้าทายในโลกยุคใหม่ที่จะต้องพัฒนารูปแบบใหม่แห่งความยอดเยี่ยมต่อไปอีก 60 ปี.ผู้เล็กน้อยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม