เมื่อสถานการณ์ความมั่นคงโลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน “เดนมาร์ก” ที่มีประชากรราว 6 ล้านคน ที่ตั้งของ “กรุงโคเปนเฮเกน” เจ้าของตำแหน่งเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ยังกำหนดให้ผู้หญิงต้องเข้ารับราชการทหารเสริมความแกร่งให้กองทัพเป็นครั้งแรก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญด้านนโยบายการป้องกันประเทศ เดินตามรอยเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศนอร์ดิกอย่างสวีเดนและนอร์เวย์การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายใหม่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาเดนมาร์กเมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กำหนดให้สตรีชาวเดนมาร์กทุกคนที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ หลังวันที่ 1 ก.ค.จะต้องเข้าร่วมการเกณฑ์ทหารผ่านระบบ “ลอตเตอรี่” หรือการจับสลากคล้ายการจับใบดำใบแดง โดย “เท่าเทียม” กับผู้ชายในเดือน ม.ค.2569 นี้ เร็วกว่าแผนการเดิมถึง 2 ปี หากกองทัพเดนมาร์กยังไม่มีผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหารครบจำนวนจากเดิมที่ผู้ชายร่างกายแข็งแรงทุกคนที่มีอายุมากกว่า 18 ปีจะถูกเรียกตัวเข้าร่วมกองทัพ ในขณะที่ผู้หญิงมีสิทธิ์เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีผู้หญิงเข้าร่วมการฝึกเป็นทหารอาสาสมัครประมาณ 25% ท่ามกลางฉากหลังการโจมตีของรัสเซียใส่ยูเครนอย่างต่อเนื่องหนักหน่วงยังไม่สิ้นสุด รวมทั้งการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 5% ของจีดีพีแต่ละประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญา แอตแลนติกเหนือหรือนาโตภายในปี 2578คาดว่าจะทำให้เดนมาร์กที่มีทหารอาชีพ ราว 9,000 นาย จะสามารถ เพิ่มจำนวนทหารเกณฑ์ใหม่เข้ารับการฝึกขั้นพื้นฐานในแต่ละปีเป็น 6,500 นาย ภายในปี 2576 จากประมาณ 4,700 นายในปีที่แล้ว และยัง ขยายระยะเวลาประจำการเป็น 3 เท่า จาก 4 เดือน เป็น 11 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ. 2569 โดยทหารเกณฑ์จะเข้ารับการฝึกขั้นพื้นฐานเป็นเวลา 5 เดือนก่อน จากนั้นจึงจะเข้ารับการฝึกภาคปฏิบัติอีก 6 เดือน รวมถึงบทเรียนเพิ่มเติมกองทัพเดนมาร์กยังระบุว่าไม่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับบทบาทของทหารหญิง หากมีสภาพร่างกายแข็งแรงพอตามที่กำหนด สตรีเดนมาร์กสามารถเข้าสู่สมรภูมิสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชายได้ นอกจากนี้หากมีความจำเป็นเร่งด่วน รมว.กลาโหมเดนมาร์กยังมีอำนาจในการส่งทหารเกณฑ์ไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างแดนได้ด้วยใครที่ประกาศปาวๆว่าไม่มีใครเค้าใช้ทหารรบกันแล้ว คงต้องลืมตาดูชาวโลกกันบ้าง.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม