หลังจากยึดอยู่นานถึง 11 ปี ฝรั่งเศสออกจากจันทบุรีเมื่อ 12 มกราคม 1904 (สยามแลกพื้นที่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง) ออกจากตราดเมื่อ 23 มีนาคม 1907 (สยามแลกพื้นที่พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ)ออกจากลาวเมื่อ 22 ตุลาคม 1953 และออกจากเขมรเมื่อ 9 พฤศจิกายน 19537 พฤษภาคม 1954 พลตรีคริสเตียน เดอ กาสทรีส์ โดนทหารเวียดมินห์จับ หลังจากจับผู้บัญชาการได้แล้ว ทหารญวนไล่ฆ่าทหารฝรั่งเศส ทั้งตาย บาดเจ็บ และถูกจับเป็นเชลยกว่า 15,000 นายรัฐบาลฝรั่งเศสกราบขอความเมตตากรุณาจากนายพลโว เหงียน เกี๊ยบ ว่าอย่าฆ่าทหารฝรั่งเศสที่เหลือเลย เราพร้อมจะออกไปจากประเทศของท่านฝรั่งเศสออกไปจากอินโดจีนได้นาน 72 ปีกับ 18 วัน อ้าวเฮ้ย 25 พฤษภาคม 2025 นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นั่งเครื่องบินของกองทัพอากาศมาลงที่สนามบินกรุงฮานอยอีก (ก่อนจะลงจากเครื่อง ประธานาธิบดีโดนเมียตบหน้าจนเป็นข่าวดังไปทั้งโลก)มาครงอยู่เวียดนามระหว่าง 25-27 พฤษภาคม 2025 แล้วก็บินไปหาประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต ไปขอให้อินโดนีเซียซื้อเครื่องบินรบราฟาล 42 ลำ เรือดำน้ำสกอร์แปน และระบบเรดาห์มาครงต้องเร่งกระชับผู้นำอินโดนีเซียให้ลงนามซื้อเครื่องบินราฟาล นายทหารอินโดนีเซียจำนวนมากออกมาขอให้รัฐบาลทบทวน เพราะเครื่องบินราฟาลของฝรั่งเศสที่อินเดียเอาไปขี่ มีรายงานข่าวอ้างว่า โดนทหารปากีสถานใช้เครื่องบินจีนยิงจนตกไป 3 ลำพวกปฏิบัติการจิตวิทยาฝรั่งเศสในอินโดนีเซียต้องทำงานกันหนัก ด้วยการเอาข่าวเครื่องบินรบสหรัฐฯ ทั้ง F-16, F/A-18 และ F-22 ตกมาโพสต์กันให้ว่อน “แม้แต่เครื่องบินที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดของสหรัฐฯ ยังถูกยิงตก”เครื่องราฟาลโดนเครื่องบินจีนยิงร่วงไป 3 ลำ ถือว่า อ้า C’est la vie เซลาวี “ธรรมดามากๆ” คนที่ถือหางเครื่องบินรบฝรั่งเศสคือนายลักโซโน สส.อินโดนีเซียฝ่ายกลาโหม แกต้องออกมาปรามความสงสัยของนายทหารอินโดนีเซียทั้งหลายหลังจากโกยเงิน 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากอินโดนีเซียเข้ากระเป๋าแล้ว 29-30 พฤษภาคม 2025 นายมาครงและเมียมือตบก็ไปพบนายธาร์มาน ชันมูการัตนัม ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐสิงคโปร์นายชันมูการัตนัมมีบรรพบุรุษมาจากเมืองอูเรลู รัฐทมิฬนาฑูของอินเดีย ประเทศที่ใช้เครื่องบินรบของฝรั่งเศสและเพิ่งโดนเครื่องบินจีนยิงตก เรื่องนี้อาจจะทำให้ประธานาธิบดีชันมูการัตนัมระวังตัว กลัวว่ามาครงจะมากระซิบขายเครื่องบินราฟาล โชคดีที่สิงคโปร์ระวังตัวจึงไม่หลวมตัวไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของฝรั่งเศสมาใช้ประธานาธิบดีมาครงกล่าวบนเวทีการประชุมแชงกรี-ลา ไดอะล็อกว่า “อ้า ขอให้ยุโรปและเอเชียสร้างพันธมิตรใหม่ (อย่างฝรั่งเศส) เพื่อหนีการถูกดึงไปเป็นพวกของสหรัฐฯ และจีน” แถมยังพูดว่า “อ้า การแบ่งขั้วของสองมหาอำนาจ (สหรัฐฯ และจีน) เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดต่อเสถียรภาพของโลกในยุคปัจจุบัน”สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ (IISS) เป็นองค์กรเอกชนที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน จัดประชุมที่โรงแรมแชงกรี-ลา ของสิงคโปร์ปีละครั้ง สถาบัน IISS พยายามเชิญผู้นำประเทศมาประชุมความมั่นคงระดับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทว่าดูในภาพของงาน ค.ศ.2025 ผมเห็นระดับผู้นำมีแต่นายหว่อง นายกฯ สิงคโปร์ และนายอิบราฮิม นายกฯมาเลเซียตั้งแต่จัดครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.2002 เอกชนผู้จัดพยายามเชิญผู้นำจีน แต่ผู้นำจีนไม่มา ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงคงไม่มางาน “เสี่ยวต๋า เสี่ยวเน่า” (แปลตรงตัวว่า “ตีเล่นๆ ส่งเสียงนิดหน่อย”) ความหมายก็คือ “งานกระจิริดกระจ้อยร้อย” อย่างนี้ดอกครับเพื่อไม่ให้เสียกำลังใจ นายสีมักจะส่งรัฐมนตรีกลาโหมมาร่วมปีนี้รัฐมนตรีกลาโหมไม่มา นายสีจึงส่งพลเรือตรีหู กังเฟิง รองประธานมหาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.จีน) มาแทนที่ไม่ส่งรัฐมนตรีกลาโหมมา อาจจะเกรงใจ เพราะเมื่อประธานาธิบดีฝรั่งเศสเจอหน้ารัฐมนตรีกลาโหมจีน ประธานาธิบดีมาครงอาจจะโม้เรื่องสมรรถนะเครื่องบินรบฝรั่งเศสได้ไม่ถนัดในงานมาครงเจอใครก็คงกระซิบกระซาบอยู่ 2 ประเด็น1.ที่ว่าเมียตบนั้นไม่ใช่ แค่เมียทุ้ยหน้าผมเล่นๆ2.อย่าไปคบกับสหรัฐฯ และจีน “อิล โว มีเยอ ชวัวซีร์ ลา ปิวซ็องซ์ ฟร็องแซส” เลือกมหาอำนาจฝรั่งเศสดีกว่า.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม