ระหว่างวันที่ 19-27 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ 78 หรือ WHA หลังจากการประชุมครั้งก่อน ได้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอองค์การอนามัยโลก ว่าด้วยแผนปฏิบัติงานฉบับที่ 14 สำหรับปี 2568-2571 ซึ่งครอบคลุมกลยุทธ์การคุ้มครองทางการเงิน เพื่อความเท่าเทียมสุขภาพถ้วนหน้าของประชากรอย่างไรก็ตาม ก็เป็นอีกปีที่รัฐบาล “ไต้หวัน” ได้เรียกร้องการมีส่วนร่วม ขอให้องค์การอนามัยโลกและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่กีดกันและให้โอกาสไต้หวันที่จะได้ร่วมมือกับประชาคมโลกในเรื่องของสุขภาพโดยกรณีนี้ “จาง จวิ้น ฝู” ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย อธิบายว่า ไต้หวันอยากจะแบ่งปัน “ประสบการณ์” หลักประกันสุขภาพ ถ้วนหน้าที่ใช้มากว่า 30 ปี เพื่อมุ่งสู่สุขภาพที่ดียิ่งขึ้นร่วมกับนานาประเทศในอนาคตไต้หวันมีหลักประกันสุขภาพประชาชนใช้มาตั้งแต่ปี 2538 ระบบประกันที่บูรณาการให้บุคคลต่างอาชีพต่างสถานะได้ใช้ร่วมกัน จนปัจจุบันครอบคลุมประชากรกว่า 99.9% ระบบนี้ได้อำนวยหลักประกันสุขภาพที่ยุติธรรม เข้าถึงได้และการรักษาพยาบาลที่ทรงประสิทธิภาพ แก่ประชาชนไต้หวันการดำเนินงานด้านการเงินหลักประกันสุขภาพของไต้หวัน ใช้โมเดลรับเรื่องจ่ายทันที และเลี้ยงตัวเองได้ อาศัยการปฏิรูปอัตราเบี้ย ประกันและการอุดหนุนจากแหล่งที่มาทางการเงิน เช่น การเก็บภาษีสุขภาพสวัสดิการจากสินค้า ประเภทยาสูบ ทำให้สามารถรับมืออย่างมี ประสิทธิภาพต่อความท้าทายของต้นทุนการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอันสืบเนื่องจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ นำเสนอแนวนโยบาย “ไต้หวันสุขภาพดี” โดยยึดแนวคิดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ถือครอบครัวเป็นแก่นและชุมชนเป็นพื้นฐาน เร่งขยายการส่งเสริมสุขภาพและการบริการเพื่อสุขภาพการป้องกัน โดยผ่าน “โครงการแพทย์ประจำครอบครัว” และ “โครงการชุมชนช่วยดูแลถ้วนทั่ว” อำนวยการบริการผู้ป่วยโรคเรื้อรังอย่างครบวงจร อีกทั้งอาศัยเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยยกระดับการบริการรักษาพยาบาลไม่ว่าอยู่ใกล้ไกลพร้อมผลักดันการดูแลระยะยาวและการดูแลในช่วงสุดท้ายของชีวิต บรรลุซึ่งเป้าหมายให้คนชราได้รับความสุขสงบในที่ ของตนเอง...วันนี้เนื้อที่หมดแล้ว ไว้ขออธิบาย ต่ออีกตอนในวันพรุ่งนี้ครับว่าประสบการณ์ประกันสุขภาพของไต้หวันเป็นเช่นไร.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม