สารจากจีนถึงสหรัฐอเมริกา เราไม่ได้ต้องการคุณ...ไม่เคยเลย!! “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” เปิดปากครั้งแรกท่ามกลางศึกการค้าระอุ ลั่นไม่กลัวการกดขี่จากสหรัฐฯ หลังถูกสหรัฐฯตั้งกำแพงภาษีจีนทะลุ 145% และขู่จะเก็บสูงสุดถึง 245% ขณะที่จีนตั้งภาษีตอบโต้สหรัฐฯเป็น 125% และยืนกรานว่าจีนจะไม่สนใจการเดินหน้าขึ้นภาษีครั้งต่อๆไปของสหรัฐฯ เนื่องจากอัตราภาษีในระดับปัจจุบันทำให้ตลาดสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯมายังจีนไม่มีอีกแล้ว และถ้าอยากให้จีนเจรจาด้วย สหรัฐฯต้องเคารพและให้เกียรติจีน“จีนไม่หวาดกลัวต่อการกดขี่ที่ไม่เป็นธรรม” ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ฟาดกลับเป็นครั้งแรก หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนปะทุเดือด ท่าทีของผู้นำจีนมีขึ้นระหว่างหารือกับ “นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซของสเปน” ที่เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมาผู้นำจีนชี้ว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าและการทำตัวต่อต้านโลก มีแต่จะทำให้ตัวเองต้องโดดเดี่ยว พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่จีนกับยุโรปต้องร่วมมือกันต่อต้านการข่มเหงรังแกแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่การปกป้องผลประโยชน์อันชอบธรรมของตัวเองเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการปกป้องความเป็นธรรมและความยุติธรรมในระดับนานาชาติด้วย“เป็นเวลากว่า 70 ปีแล้ว ที่การพัฒนาของจีนต้องอาศัยการพึ่งพาตนเองและการทำงานหนัก ไม่เคยอาศัยเงินช่วยเหลือจากผู้อื่น และไม่กลัวการปราบปรามที่ไม่ยุติธรรม ไม่ว่าสภาพแวดล้อมภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จีนจะยังคงมีความมั่นใจ มุ่งมั่น และมุ่งเน้นไปที่การบริหารกิจการภายในประเทศของตนเองให้ดี”ผู้นำจีนกล่าวอีกว่า เรื่องสงครามการค้า แม้ไม่อาจเอาชนะได้ แต่ขอย้ำชัดเจนว่า จีนจะไม่ยอมแพ้ แม้ว่าสงครามจะร้อนแรงเพียงใดก็ตามในขณะที่ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์” กำลังดิ้นพล่านรอ “สี จิ้นผิง” ติดต่อมาขอเจรจาเอง โดยอเมริกาจะไม่เป็นฝ่ายติดต่อจีนก่อน พร้อมลั่นยังเห็นผู้นำจีนเป็นเพื่อน และเชื่อว่าสุดท้ายจะหาทางออกบางอย่างที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศได้ด้าน “ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ก็เลือกเดินเกมสุขุมเยือกเย็นเดินสายจีบพันธมิตรมาเป็นกันชนสงครามการค้า ประเดิมทริปแรกของปีด้วยการเยือน 3 ประเทศอาเซียนคือ เวียดนาม, มาเลเซีย และกัมพูชา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ส่งสัญญาณว่ารัฐบาลปักกิ่งต้องการกระชับสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีจุดยืนเข้มแข็ง เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามภาษีของทรัมป์ผีเข้าผีออกของแท้!! หลังเปิดศึกรีดภาษีชาวโลกไม่ถึงอาทิตย์ “ทรัมป์” ยอมกดปุ่มพักเบรกขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลก 90 วัน แต่ยกเว้นคู่แค้นอย่าง “จีน” ยังโดนเล่นงานหนักเจอขึ้นภาษีสูง 145% ฟาดกันไปฟาดกันมาหลายดอก ล่าสุดรัฐบาลจีนตั้งธงจะยอมเปิดโต๊ะเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หากสหรัฐฯยอมรับ 4 เงื่อนไขคือ เคารพและให้เกียรติจีนมากขึ้น, มีจุดยืนมั่นคง, ให้ความสำคัญกับข้อกังวลด้านความมั่นคงของจีน โดยเฉพาะประเด็นไต้หวัน และตั้งผู้แทนเจรจาที่มีอำนาจเต็มจากประธานาธิบดีถามว่าลึกๆแล้วจีนเล็งเห็นถึงภัยร้ายจากสหรัฐฯหรือไม่ “สี จิ้นผิง” ชี้ว่า การกลับมาสมัยที่สองของ “โดนัลด์ ทรัมป์” เหมือนจีนกำลังเผชิญกับ “แรดเทา” ที่เป็นภัยคุกคามตลอดเวลา หากชะล่าใจเมื่อไหร่ สุดท้ายแรดตัวนั้นจะพุ่งเข้ามาเอาชีวิต คำว่า “แรดเทา” ถูกใช้ครั้งแรกโดย “มิเชล วัคเกอร์” เจ้าของหนังสือ “The Gray Rhino” เมื่อปี 2016 โดยนิยามว่า “แรดเทา” คืออันตรายตรงหน้าที่เราพอจะมองเห็นจากระยะไกลๆ แต่นิ่งนอนใจกับความเสี่ยงนั้น จนสุดท้ายแรดตัวนั้นพุ่งชนเราจนเจ็บเจียนตายผู้นำจีนย้ำเตือนถึงความเสี่ยงจากปัญหา “แรดเทา” มานานแล้ว โดยพูดเสมอว่า จีนต้องพร้อมรับมือทุกเมื่อกับความเสี่ยงที่ “แรดเทา” จะวิ่งมาพุ่งชน ตั้งแต่สมัยแรกของทรัมป์ “สี จิ้นผิง” ก็ยกคำว่า “แรดเทา” ขึ้นมาพูดในหลายวาระ โดยชี้ว่า เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกหลายอย่างที่คาดไม่ถึง มีปัจจัยภายนอกที่อ่อนไหวและซับซ้อน จงอย่าชะล่าใจ ต้องเร่งควบคุมความเสี่ยงเต็มที่ ทั้งด้านการเมือง, เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี งานหนักของทุกคนคือ เราจะต้องเฝ้าระวังอย่างสุดชีวิต เพื่อคอยจับตา “หงส์ดำ” ภัยมืดที่มองไม่เห็น และมุ่งสกัด “แรดเทา” ภัยคุกคามที่จ้องจะพุ่งชนเราทุกเมื่อ...ยิ่ง “แรดเทายี่ห้อทรัมป์” ดุดันบ้าบิ่นคาดเดาใจยากซะด้วย!!มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม