ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในโลกเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งวิถีชีวิตและอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นเดียวกับสื่อสิ่งพิมพ์ที่ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ไปจนถึงหนังสือการ์ตูนไม่นานมานี้ศูนย์วิจัยเพื่อสื่อสิ่งพิมพ์ของญี่ปุ่น (The Research Institutefor Publications) เผยสถิติยอดขาย “หนังสือการ์ตูน” หรือ “มังงะ” ในญี่ปุ่นประจำปี 2567 โดยพบว่า มังงะสามารถทำยอดขายในประเทศได้ถึง 704,300 ล้านเยน หรือราว 159,259 ล้านบาท ถือเป็นการทำยอดขายทะลุ 7 แสนล้านเยนได้เป็นครั้งแรก ทั้งยังเพิ่มขึ้น 1.5% จากปี 2566 ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 693,700 ล้านเยน หรือราว 157,646ล้านบาท โดยยอดขายหนังสือการ์ตูนยังคิดเป็น 44.8% ของตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ในญี่ปุ่นอีกด้วยอย่างไรก็ตาม ยอดขายหนังสือการ์ตูนอันถล่มทลายนี้ส่วนใหญ่มาจากยอดขายมังงะในรูปแบบดิจิทัลหรืออีบุ๊ก ที่ผู้คนสามารถเปิดอ่านตอนไหนก็ได้ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วจิ้มลงบนหน้าจอสมาร์ทโฟน โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 512,200 ล้านเยน หรือ 115,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 483,000 ล้านเยน หรือ 109,077 ล้านบาทขณะที่มังงะรูปเล่มและแม็กกาซีนยังคงมียอดขายลดลงต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3 โดยอยู่ที่ 192,100 ล้านเยน หรือ 43,508 ล้านบาท ลดจากปีก่อน 8.8% ที่เคยทำยอดขายไปได้ 210,700 ล้านเยน หรือ 47,586 ล้านบาท ยังเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมของผู้อ่านเปลี่ยนไป หลายคนเลือกที่จะอยู่บ้าน ไม่เดินทางออกไปซื้อมังงะตามร้านต่างๆนอกจากนี้ ยอดขายมังงะรูปเล่มที่ลดลงยังเป็นเพราะมังงะเรื่องโด่งดังที่นักอ่านติดกันงอมแงมได้เดินทางมาถึงตอนจบในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เช่น มหาเวทย์ผนึกมาร (Jujutsu Kaisen), มายฮีโร่ อคาเดเมีย (My Hero Academia) และเกิดใหม่เป็นลูกโอชิ (Oshi no Ko) โดย Oricon ยังเคยเผยยอดขายมังงะในญี่ปุ่นอย่างไม่เป็นทางการตั้งแต่ 20 พ.ย.2566 จนถึง 17พ.ย.ปีที่แล้ว พบว่ามหาเวทย์ผนึกมารครองบัลลังก์มังงะขายดี ฟาดยอดขายรวมไปถึง 7,610,995 เล่ม ส่วนมายฮีโร่ อคาเดเมีย อยู่ที่ 2,943,985 เล่ม และเกิดใหม่เป็นลูกโอชิ 2,215,000 เล่ม.ญาทิตา เอราวรรณคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม