องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) กลายเป็นหน่วยงานที่ถูกขยี้อย่างต่อเนื่องจากรัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ว่าจะเป็นท่าทีของทรัมป์เองที่มองว่า เป็นองค์การที่เต็มไปด้วยคอร์รัปชันในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จำเป็นต้องปิดตัวลง หรือที่ปรึกษาฝ่ายประหยัดงบอย่างอีลอน มัสก์ ที่กล่าวถึงขั้นว่าเป็นองค์กรอาชญากรรมโดยนับตั้งแต่วันสาบานตน 20 ม.ค. เป็นต้นมา ข้อมูลเกี่ยวกับยูเอสเอดยังคงถูกเปิดเผยมาเรื่อยๆว่าใช้งบประมาณสนับสนุนต่างประเทศในเรื่องใดบ้าง แต่แน่นอนสิ่งที่ตกเป็นเป้ามากที่สุดคือ การทุ่มเงินในเรื่องการส่งเสริมแนวคิด DEI ความหลากหลาย ความเท่าเทียมในด้านเชื้อชาติ สีผิว และเพศสภาพ ที่ได้รับการโหมประโคมอย่างหนักช่วงรัฐบาลเดโมแครตที่ผ่านมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางโฆษกทำเนียบขาวแคโรไลน์ เลวิตต์ ออกมายกตัวอย่างให้เห็นกันเต็มๆว่าเงินภาษีประชาชนชาวอเมริกันถูกส่งผ่านยูเอสเอดไปใช้ทำอะไรบ้าง เริ่มตั้งแต่การโปรโมตแนวคิดดีอีไอในสังคมออฟฟิศภายในประเทศเซอร์เบีย เป็นจำนวน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 51 ล้านบาทตามด้วยการให้งบ 70,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 2.38 ล้านบาท ในการจัดคอนเสิร์ตส่งเสริมดีอีไอในประเทศไอร์แลนด์ การให้งบ 47,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรมโอเปร่าของกลุ่มคนข้ามเพศในประเทศโคลอมเบีย รวมถึงการให้งบ 32,000 ดอลลาร์ หรือราว 1.08 ล้านบาท ในการจัดพิมพ์ การ์ตูนโปรโมตคนข้ามเพศในประเทศเปรูมองไปได้ว่า ใครที่อยากส่งเสริมแนวคิดความหลากหลายทางเพศและความเท่าเทียม ก็ของบจากสหรัฐฯได้เลย พร้อมให้หมดไม่ว่าจะมากจะน้อย ซึ่งทางโฆษกพูดออกมาตรงๆเลยว่า ไม่รู้ว่าพวกคุณจะคิดกันเช่นไร แต่ดิฉันในฐานะคนจ่ายภาษี ย่อมไม่อยากให้เงินของประเทศลงไปกับขยะพวกนี้ เรารู้ว่าชาวอเมริกันเองไม่ได้ต้องการเหมือนกัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมอีลอน มัสก์ ถึงได้รับมอบหมายจากประธานาธิบดีให้เข้ามาจัดการแถมล่าสุดก็เริ่มจะลามไปถึงภาคสื่อสารมวลชนแล้ว โดยมีรายงานว่าสื่อในยูเครนถึง 9 ใน 10 อยู่ได้ด้วยเงินของยูเอสเอด ขณะที่ทรัมป์ก็เปรยๆว่า สื่อการเมืองในสหรัฐฯ รับเงินสนับสนุนจากองค์การไปกว่า 8 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 272 ล้านบาท ส่วนอีลอน มัสก์ ก็เผยว่า สำนักข่าวบีบีซีอังกฤษได้รับเงินบริจาคจากยูเอสเอดไปกว่า 2.61 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 109 ล้านบาท.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม