(แฟ้มภาพ)นอกจากงานศิลปะจะสร้างความงดงามจรรโลงจิตใจมนุษย์แล้ว ผลงานบางชิ้นยังเป็นเครื่องเตือนสติถึงเหตุการณ์ทั้งร้ายหรือดีจากอดีตปะปนกันไปเหมือนเช่นประติมากรรมสัมฤทธิ์ “ซาดาโกะ ซาซากิ” สูงประมาณ 150 เซนติเมตร ขนาดเท่าตัวจริงของเด็กหญิงชาวญี่ปุ่นผู้รอดชีวิตจากเหตุระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมา ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในอีก 10 ปี ต่อมา ด้วยวัยเพียง 12 ปี ผลพวงของกัมมันตภาพรังสี ที่เคยตั้งเด่นตระหง่านเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพใน สวนสาธารณะพีซ พาร์ก ในเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน มายาวนานตั้งแต่ปี 2533ถูกพบว่าโดนลอบตัดตั้งแต่ส่วนข้อเท้าขึ้นไป แล้วอุ้มหายไปอย่างลึกลับ เมื่อหลายวันก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุและเร่งสืบสวนสอบสวน เสียแต่ว่าจนถึงขณะนี้ยังไร้ร่องรอยคาดว่าที่คนร้ายลงทุนลงแรงขนาดนี้ก็คงต้องการเอาสัมฤทธิ์ล้ำค่าไปขาย เนื่องจากตอนนี้ราคาเพิ่มสูงฉุดไม่อยู่ ที่สำคัญนี่ยังไม่ใช่ครั้งแรกที่สัญลักษณ์แห่งสันติภาพถูกคนร้ายลอบตัดชิ้นส่วนไป คราวก่อนนั้นรูปปั้นซาดาโกะ ถูกตัดแขนขวาเมื่อปี 2546 แต่ได้รับการซ่อมแซมในปีต่อมาด้วยเงินบริจาคจากผู้คนทั่วโลกขอเป็นกำลังใจให้เจอะเจอในเร็ววัน.อึ่งอ่างกลางฝนคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดม่าน joke opera” เพิ่มเติม