เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านายลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมสหรัฐฯ และนายอันเดร เบลูซอฟ รมว.กลาโหมรัสเซีย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.นับเป็นการสนทนาระหว่างเจ้ากระทรวงกลาโหมของชาติมหาอำนาจจาก 2 ขั้วที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนัก ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ หลังจากรัสเซียโทษสหรัฐฯ และเตือนถึงผลลัพธ์ที่ตามมา กล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงจากการที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐฯ โจมตีไปยังแคว้นไครเมียที่รัสเซียผนวกควบรวมเป็นของตนเองเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 151 คนในการสนทนาครั้งแรกระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งออสตินเป็นฝ่ายยกหูโทรศัพท์หา ทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์รอบๆ ยูเครน โดยออสตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสื่อสารระหว่างกันในระหว่างสงครามรัสเซีย-ยูเครนกำลังดำเนินอยู่ ด้านเบลูซอฟซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้คุมกระทรวงกลาโหมรัสเซียแทนนายเซอร์เก โชยกู สหายสนิทของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ชี้ให้ออสตินตระหนักถึงอันตรายที่สถานการณ์จะยิ่งลุกลามบานปลาย จากการจัดหาอาวุธของสหรัฐฯให้กองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการเปิดทางให้ยูเครนใช้อาวุธที่สหรัฐฯจัดหาให้ในการโจมตีเป้าหมายลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซียวันเดียวกัน นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย แถลงถึงประเด็นที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (หรือไอซีซี) ในกรุงเฮก ของเนเธอร์แลนด์ ออกหมายจับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรัสเซีย 2 คน ได้แก่ นายเซอร์เก โชยกู อดีต รมว.กลาโหมรัสเซียยาวนาน 12 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ผู้บัญชาการคณะเสนาธิการกองทัพรัสเซียฐานต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการมุ่งเป้าโจมตีพลเรือนในยูเครน โดยนายเปสคอฟกล่าวว่าเป็นเรื่องไร้สาระ พร้อมเสริมว่ารัสเซียไม่ยอมเขตอำนาจศาลของศาลดังกล่าวด้านนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เดินทางไปเยี่ยมทหารในพื้นที่แนวหน้าด้านตะวันออกของจังหวัดโดเนตสก์พร้อมจัดการประชุมโดยละเอียดเกี่ยวกับการรบ ผู้นำยูเครนยังกล่าวว่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องบางคนไม่ได้ประจำการอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมานานอย่างน้อย 6 เดือน ทั้งนี้ ก่อนหน้าการเยือนของเซเลนสกี กองกำลังรัสเซียได้ทิ้งระเบิดร่อนใส่เมืองเซลีโดเวในจังหวัดโดเนตสก์ เกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง บ้านเรือนถูกทำลาย 37 หลัง อาคาร 6 หลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่