13.00-15.00 น. 24 มิถุนายน 2567 มีพิธีซื้อขายคาร์บอนเครดิตจากโครงการถังขยะเปียกลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย กับภาคีเครือข่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ห้องประชุมราชบพิตร อาคารดำรงราชานุสรณ์ผู้ซื้อคาร์บอนเครดิตในครั้งนี้มี 12 บริษัทและหน่วยงานคือ 1.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 2.บจก.โอ๊คลิน (ประเทศไทย) 3.บจก.ฮีดากาโยโกเอ็นเตอร์ไพรส์ 4.บจก.บีแอลซีพีเพาเวอร์ 5.บจก.ฮีดากาซูซูโทกู (ประเทศไทย) 6.บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ 7.บจก.อีเวนท์ แทรเวล เอเชีย 8.บจก.เวคิน (ประเทศไทย) 9.บจก.ไทยแมนอินดัสตรีส์ 10.สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย 11.บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก และ 12.บจก.เฮลทีเอิร์ธไฮยีนาเป็นสัตว์กินเนื้อ มีรูปร่างคล้ายหมาป่า วิ่งเร็ว 65 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง แบ่งเป็น 25 สกุลและมีหลายชนิด ปัจจุบันเหลือ 4 ชนิด 3 สกุล นิสัยดุร้าย ออกหากินในเวลากลางคืน ตอนกลางวันจะนอนหลับพักผ่อน เป็นสัตว์ที่กินไม่เลือกแม้แต่กระดูก หรือซากศพก็กินด้วย เป็นสัตว์เจ้าเล่ห์ มักแกล้งตายเพื่อหลอกสัตว์อื่นองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างรัฐบาลของ 32 รัฐสมาชิก 30 ประเทศอยู่ในทวีปยุโรป อีก 2 ประเทศอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ สมาชิกทุกประเทศจะรวมตัวกันแบบไฮยีนา ไปรุมเล่นงานรัฐใดรัฐหนึ่งที่ตนไม่ชอบ หลายคนจึงเรียกองค์การนาโตว่าฝูงไฮยีนาในโลกเราใบนี้มีไม่กี่ประเทศที่กล้าต่อกรกับฝูงไฮยีนานาโต ใครที่โดนรุมขย้ำส่วนมากมักจะตายและถูกปล้นทรัพยากรไปกินไปใช้กันในหมู่ฝูงไฮยีนา หลายประเทศก็เคยโดนฝูงไฮยีนารุมทึ้งมาแล้ว เช่น อิรักที่ต้องเอาน้ำมันในประเทศตนเองไปขายเพื่อจ่ายเป็นค่าปฏิกรรมสงครามให้กับสหรัฐฯและอังกฤษ ซึ่งเป็น 2 ประเทศนำของนาโตฝูงไฮยีนาไปหากินแถวชายแดนรัสเซีย-อูเครน แต่เนื่องจากรัสเซียเป็นประเทศที่มีของดีในระดับหนึ่งที่สามารถต่อกรกับฝูงไฮยีนาได้ พวกนี้จึงไม่กล้าเล่นงานรัสเซียตรงๆ จึงใช้เซเลนสกีผู้อ่อน ด้อยประสบการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศเป็นผู้ออกหน้าแทนจีนเป็นอีกประเทศหนึ่งซึ่งฝูงไฮยีนามองตาเป็นมัน อยากจะเข้าไปขย้ำฉีกทึ้งเพื่อนำเนื้อและผลประโยชน์มาแบ่งกินกัน ในอดีตบรรพบุรุษของจีนเคยถูกรุมทึ้งจากฝูงไฮยีนารุ่นก่อน จึงมีประสบการณ์ป้องกันตนเองด้วยการสั่งสมกำลังทหารและอาวุธสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศแห่งสตอกโฮล์ม (SIPRI) รายงานว่า ตั้งแต่มกราคม 2023 จีนขยายคลังแสงนิวเคลียร์รวดเร็วกว่าประเทศใดในโลก ผลการศึกษาของ SIPRI พบว่า ระหว่างมกราคม 2023-มกราคม 2024 คลังแสงนิวเคลียร์ของจีนเพิ่มขึ้นจาก 410 หัวรบเป็น 500 หัวรบกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯออกมากระโจมโหมข่าวโจมตีที่จีนสะสมอาวุธทำลายล้างอย่างหัวรบนิวเคลียร์ โดยบอกว่าจนถึงพฤษภาคม 2023 จีนมีหัวรบเกินกว่าที่สหรัฐฯเคยประเมินไว้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงทำนองว่า จีนเป็นประเทศอันตรายเพราะภายใน ค.ศ.2030 จีนอาจมีหัวรบนิวเคลียร์ในครอบครองเกินกว่า 1,000 หัวรบทั้งที่ตะโกนก้องร้องว่าจีนเป็นอันตราย แต่ในขณะเดียวกัน พวกตะวันตกก็เยาะเย้ยถากถางและดูหมิ่นถิ่นแคลนจีนว่า อ้า ไอ้หัวรบนิวเคลียร์ของจีนนี่ มีเพียงเล็กน้อยจ้อยกระจิริด เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐฯที่มีนิวเคลียร์พร้อมปฏิบัติการมากกว่า 1,700 หัวรบนายสโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตบอกว่า บรรดารัฐสมาชิกนาโตกำลังหารือกันเรื่องการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธติดอาวุธนิวเคลียร์ออกจากคลังสำรอง และเอาไปวางไว้ในสถานที่ที่พร้อมที่จะปฏิบัติการ โดยที่ไม่ได้แจ้งว่าจะเอาไปวางไว้ที่ไหนสโตลเทนเบิร์กพูดทิ้งท้ายไว้สองสามประโยคว่า มีแนวโน้มภัยคุกคามมาจากรัสเซียและจีน ดังนั้น พวกเราพันธมิตรทางทหาร (นาโต) ที่นำโดยสหรัฐฯจำเป็นต้องส่งสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ของกลุ่มเราไปให้รัสเซียและจีนรู้เหมือนกับจะขู่ว่า อ้า จีนกะรัสเซียอย่าเล่นกับไฮยีนาอย่างพวกข้านะเว้ย.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม