เมื่อวันที่ 14 พ.ค. สำนักข่าวไทม์สออฟอิสราเอลรายงานบทความอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯถึงความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯที่ต้องการจะรวบรัดตัดจบสงครามอิสราเอล-ฉนวนกาซาในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ดำเนินมาเป็นเวลากว่า 7 เดือน นับตั้งแต่เหตุโศกนาฏกรรมกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 ตามมาด้วยปฏิบัติการทางทหารของกองทัพ อิสราเอลในฉนวนกาซา ซึ่งส่งผลให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย มีจำนวนหลายหมื่นคนทั้งนี้ รายงานข่าวของสื่อท้องถิ่นอิสราเอลอ้างว่า รัฐบาลสหรัฐฯกำลังเดินเกมการเมืองหลังฉาก เพื่อปูทางไปสู่การประกาศว่า อิสราเอลประสบความสำเร็จในการปราบปรามกลุ่มฮามาสได้อย่างเพียงพอแล้ว และสงครามครั้งนี้ควรจะยุติลงได้เสียที ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นสาเหตุว่าทำไมรัฐบาลสหรัฐฯจึงพยายามดึงชาติอาหรับ โดยเฉพาะรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเข้ามาเกี่ยวข้องในการเจรจาช่วงหลัง เพื่อร่วมมือกับอิสราเอลบริหารจัดการฉนวนกาซาหลังสงคราม พร้อมหวังว่าซาอุดีอาระเบียจะยอมมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล เพื่อแลกกับข้อตกลงความมั่นคงแบบส่วนตัวที่ทางการสหรัฐฯจะมอบให้อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯมองทิศทางของสถานการณ์ความขัดแย้งครั้งนี้ไว้ว่า กองทัพอิสราเอลจะไม่สามารถกำจัดกลุ่มฮามาสได้อย่างสิ้นเชิงยังไงกลุ่มฮามาสก็จะหลงเหลืออยู่ในฉนวนกาซา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลดบทบาท ลดอิทธิพลของกลุ่มฮามาสให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟู “รัฐบาลปาเลสไตน์ส่วนกลาง” (Palestinian Authority: PA) และเมื่อฉนวนกาซาได้รับการบริหารจัดการผ่านกลไกความร่วมมือกับชาติอาหรับอย่างเหมาะสมแล้ว หากทางรัฐบาลอิสราเอลต้องการที่จะไล่ล่ากำจัดแกนนำของกลุ่มฮามาสต่อไป สหรัฐฯก็จะไม่มีปัญหาติดขัดอะไรนอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯยังพยายามส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลอิสราเอลอยู่เป็นระยะๆด้วยว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลได้ทำให้กลุ่มฮามาสอ่อนแอลงไปมากแล้ว อยากให้อิสราเอลเรียนรู้จากประสบการณ์ของสหรัฐฯว่า การกำจัดศัตรูอย่างสิ้นซากนั้นแตกต่างกับการทำให้ศัตรูไร้พิษสง ขณะที่แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงในรัฐบาลอิสราเอลบางส่วนก็เริ่มยอมรับแล้วว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะกำจัดฮามาสให้หมดไปด้วยการใช้กำลังทางทหาร จะต้องใช้กระบวนการทางการเมืองเข้ามาผสมโรง เพื่อไม่ให้ขั้วก่อการร้ายของฮามาสหวนกลับมาในฉนวนกาซา กระนั้น ทางฝ่ายการเมืองของรัฐบาลอิสราเอลไม่ค่อยพอใจกับแนวทางนี้ของสหรัฐฯเท่าไรนัก.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่