สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า กรณีเรือสินค้าระวางกว่า 200,000 ตัน ยาวกว่า 400 เมตร “เอเวอร์ กิฟเวน” ของไต้หวัน เกยตื้นตลิ่งบล็อกเส้นทางเดินเรือคลองสุเอซในอียิปต์จนสร้างความเสียหายทางการค้าอย่างมหาศาล มีเรือสินค้ากว่า 300 ลำตกค้าง ไม่อาจมุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางได้ โดยเมื่อวันที่ 28 มี.ค. หรือ 5 วันหลังเกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถขยับเรือสินค้าลำมหึมาให้พ้นทางได้แต่อย่างใดทั้งนี้ จากการเปิดเผยของทางการท้องถิ่นระบุว่า ได้มีการใช้เรือลากจูง 14 ลำ ช่วยกันดันและดึงเรือสินค้าให้หลุดจากการเกยตลิ่ง พร้อมทั้งมีการขุดทรายริมตลิ่งออกไปแล้วกว่า 20,000 ตัน ซึ่งผลปรากฏว่าสามารถขยับเรือเอเวอร์ กิฟเวน ได้อย่างน้อย 2 นิ้ว ถึงความคืบหน้าจะเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่หมดความหวังและจะนำเรือลากจูงมาเสริมกำลัง เพื่อดันเรือให้หลุดจากตลิ่งต่อไป พร้อมหวังว่าคงไม่ถึงขั้นที่จะต้องขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์กว่า 18,300 ตู้ ลงจากเรือ อย่างไรก็ตาม ทีมผู้เชี่ยวชาญจากยุโรปประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่า การขยับเรือเอเวอร์ กิฟเวน ให้พ้นทางอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะกรณีที่ต้องขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ลงจากเรือ เพราะย่อมหมายความว่าต้องนำเครนยกตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่า 60 เมตรมาใช้.