เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ควงคู่เปิดใจเป็นครั้งแรกผ่านรายการทีวีดังมะกัน ที่มีพิธีกรหญิง “โอปราห์ วินฟรีย์” เป็นผู้ดำเนินรายการ ระบุสาเหตุความร้าวฉานในราชวงศ์วินด์เซอร์จนถึงขั้นถอนตัวจากการทำหน้าที่สมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ ขณะที่ “เมแกน” แฉชัด ถูกสมาชิกราชวงศ์บางพระองค์ตั้งแง่เรื่อง “สีผิว” พระโอรส “อาร์ชี” พร้อมตอกย้ำเรื่องการเป็นแม่ม่ายมาก่อน จนจิตตกถึงขั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่ รวมถึงปฏิเสธสารพัดข่าวที่ถูกสื่อมวลชนอังกฤษรุมโจมตีออกอากาศไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับเทปสัมภาษณ์พิเศษเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ความยาว 2 ชั่วโมง ของสถานีโทรทัศน์ช่องซีบีเอส สหรัฐฯ ดำเนินรายการโดยพิธีกรผิวสีชื่อก้อง โอปราห์ วินฟรีย์ ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยเป็นการเปิดใจถึงเรื่องราวในสำนักพระราชวังอังกฤษ ที่นำไปสู่เหตุการณ์ความสัมพันธ์ร้าวฉานภายในสมาชิกราชวงศ์วินต์เซอร์ เจ้าชายแฮร์รีและเมแกนร่วมประกาศถอนตัวจากการทำหน้าที่สมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมาทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 8 มี.ค.ว่าเมแกนได้เปิดเผยต่อโอปราห์ว่า เรื่องนี้ต้องแยกกันระหว่างสมาชิกราชวงศ์ กับกลุ่มคนที่ทำหน้าที่ดูแลสถาบัน เช่น สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ประมุขแห่งราชวงศ์อังกฤษและพระอัยยิกาของเจ้าชายแฮร์รี พระองค์ทรงเป็นคนที่วิเศษมาก เราเคยเดินทางด้วยรถไฟด้วยกัน และพระองค์ทรงมอบสร้อยคอและตุ้มหูไข่มุกเป็นของขวัญ รวมทั้งร่วมห่มผ้าห่มกันหนาวผืนเดียวกัน เช่นเดียวกับเจ้าชายแฮร์รีก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์เมแกนกล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่สถาบัน ตนในที่นี้ขอเรียกว่าบริษัทจำกัด ทราบข่าวการคบหาดูใจกับเจ้าชายแฮร์รี ก็ได้แจ้งไปยังทุกคนในชีวิตว่า ห้ามพูดอะไรหรือให้ความเห็นอะไรเด็ดขาด ตอนแรกรู้สึกว่าได้รับการปกป้องจากสถาบัน แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังจากเข้าพิธีเสกสมรสอย่างเป็นทางการ กลายเป็นว่าถูกปิดปาก แถมเวลาอยากไปไหน มักไม่ได้รับอนุญาต เพราะกังวลเรื่องภาพลักษณ์ต่อสาธารณชน และจริงๆแล้วตนกับเจ้าชายแฮร์รีจัดพิธีเสกสมรสกันอย่างลับเฉพาะเราสอง 3 วันก่อนกำหนดวันเสกสมรสจริงวันที่ 19 พ.ค.2561 ในสวนหย่อมของตำหนักส่วนตัว มีอาร์คบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี เป็นผู้ทำพิธีให้ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ย้อนความหลังอีกว่าช่วงที่ทรงครรภ์พระโอรส อาร์ชี เมาน์แบทเทน-วินซอร์ มีสมาชิกราชวงศ์บางพระองค์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเข้มของผิวสี และเด็กจะออกมาหน้าตาเช่นไร และระหว่างนั้นยังมีการสนทนาอย่างต่อเนื่องว่า จะไม่มอบพระยศ หรือถวายการอารักขาให้แก่อาร์ชี นอกจากนี้ พวกเขายังทำให้ตนรู้สึกอยู่เสมอว่า เป็นชาวอเมริกันที่เคยผ่านการหย่าร้างมาก่อน“จนถึงช่วงหนึ่งระหว่างตั้งครรภ์ รู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป มีความคิดที่น่ากลัวและน่าหวาดหวั่นเช่นนี้อยู่ตลอดเวลา เหมือนกับว่าที่ต้องทนทุกข์อยู่เช่นนี้ เพราะยังมีลมหายใจอยู่ และจำได้ขึ้นใจว่าคนที่ช่วยปลอบประโลม ดึงมาโอบกอดไว้คือเจ้าชายแฮร์รี สิ่งที่เสียใจที่สุดในเรื่องนี้คือ ช่วงที่ทุกข์หนักหนาสาหัส แต่ทางสถาบันไม่ช่วยปกป้องอะไร ฉันได้ไปเข้าพบกับฝ่ายบุคคลของสำนักพระราชวังเพื่อขอความช่วยเหลือทางจิตเวช แต่กลับได้รับคำตอบที่น่าตกใจว่า ขอแสดงความเห็นใจอย่างยิ่งในเรื่องนี้ แต่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากพระองค์ไม่ใช่สมาชิกที่ได้รับเบี้ยเลี้ยงจากสถาบัน” เมแกนเปิดเผยทั้งน้ำตา ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีสำทับด้วยว่า ปฏิกิริยาของสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ มองเรื่องนี้ว่า เคยผ่านแบบนี้กันมาแล้วทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ต้องทำคืออดทนนอกจากนี้ เมแกนยังเปิดเผยเรื่องที่ถูกสื่อมวลชนอังกฤษรุมโจมตีว่าเธอทำให้เคท ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาของเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี ทรงร้องไห้ในช่วงพิธีเสกสมรสว่า ไม่เป็นความจริง ตัวเองต่างหากที่ร้องไห้ เนื่องจากเคทไม่พอใจเรื่องชุดของเด็กโปรยดอกไม้ในพิธี ซึ่งทางสำนักพระราชวังไม่คิดที่จะแก้ข่าวให้ แต่หลังจากนั้นเคทได้ขอโทษแล้ว พร้อมส่งดอกไม้มาให้ส่วนประเด็นความสัมพันธ์ร้าวฉานภายในราชวงศ์นั้น เจ้าชายแฮร์รี ทรงเปิดเผยว่า หลังทรงประกาศถอนตัวจากการปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์ ได้สนทนาเรื่องนี้กับ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ถึง 3 ครั้ง ไม่ใช่ที่รายงานข่าวกันว่าตัดสินใจโดยไม่บอกกล่าว ทั้งยังหารือกับพระบิดาเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นพระบิดาทรงไม่รับโทรศัพท์ และตรัสว่า ให้เขียนเป็นจดหมายแทน ตอนนั้นรู้สึกเหมือนต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรักษาสภาพจิตใจของตนเองและครอบครัว น่าเศร้าที่เรื่องมาถึงจุดนี้ และถ้าไม่ใช่เพราะเมแกน คงไม่ประกาศถอนตัวเมื่อถามในประเด็นนี้ต่อ เจ้าชายแฮร์รีทรงกล่าวว่า ตอนนี้พระบิดา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ทรงยอมรับโทรศัพท์แล้ว แต่แน่นอนเรื่องนี้มีความเจ็บปวดกันอยู่ คงต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกันเป็นอย่างมาก และพระบิดาทรงยอมรับว่าเคยผ่านอะไรเช่นนี้มาก่อน เข้าใจว่าเจ็บปวดเช่นไร เมื่อพิธีกร โอปราห์ ถามต่อถึงความสัมพันธ์กับเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ และพระเชษฐา เจ้าชายแฮร์รีทรงตอบสั้นๆว่า เว้นระยะ ก่อนเปิดเผยว่า พระองค์ถูกตัดเบี้ยเลี้ยงไปแล้วตอนที่ย้ายมาอยู่นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ต้องใช้เงินมรดกของเจ้าหญิงไดอานา พระมารดา ซื้อบ้าน พร้อมเจรจาทำสัญญากับเน็ตฟลิกซ์และสปอติฟายเพื่อหารายได้ พร้อมระบุว่าพระองค์และเมแกนกำลังจะมีลูกคนที่ 2 เป็นหญิง และคิดว่าลูก 2 คนน่าจะพอแล้วด้านสำนักข่าวซันเดย์ ไทมส์ ของอังกฤษ รายงานว่า สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 จะไม่ทอดพระเนตรรายการนี้ พร้อมรายงานว่าสำนักพระราชวังอังกฤษจะไม่ยอมนิ่งเฉย หากการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวมีสมาชิกราชวงศ์ถูกโจมตี ก่อนหน้าที่รายการจะออกอากาศ มีรายงานว่าสำนักพระราชวังยังเปิดการสอบสวนภายในกรณีเมแกน ถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งข้าราชบริพารด้วย