การต่อสู้ระหว่างสหรัฐฯและอิสราเอลกับอิหร่านเป็นไปด้วยความเข้มข้นต่อเนื่อง ตั้งแต่อิหร่านเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสาธารณรัฐมาเป็นสาธารณรัฐอิสลามหลังจากการปฏิวัติขับไล่โมฮัมมัด เรซา ปาห์ลาวี กษัตริย์อิหร่านสำเร็จเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2522หนึ่งในยุทธศาสตร์ของการเอาชนะอิหร่านคือการฆ่าบุคลากรสำคัญของฝ่ายอิหร่าน 3 มกราคม 2563 พลตรีคาเซ็ม สุเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ของอิหร่านบินมาลงที่สนามบินในกรุงแบกแดดของอิรัก ขณะนั่งรถจากสนามบินก็โดนโดรนสังหารของสหรัฐฯถล่ม28 พฤศจิกายน 2563 พลจัตวาโมห์เซน ฟาคริซาเดห์ บิดานิวเคลียร์แห่งอิหร่านโดนคนร้ายลอบยิงจนเสียชีวิตในกรุงเตหะราน ตั้งแต่ พ.ศ.2549 เป็นต้นมา หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอลที่ชื่อว่ามอสสาดร่วมมือกับสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯติดตามพลจัตวาฟาคริซาเดห์ทุกฝีก้าว เพราะมีความเชื่อว่าท่านผู้นี้คือผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้อิหร่านพ.ศ.2464 นายทหารบกผู้มีชื่อว่าเรซา ข่าน ปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์กอญาร์และตั้งราชวงศ์ใหม่ของตัวเองชื่อราชวงศ์ปาห์ลาวี ชาห์เรซาพยายามปฏิรูปอิหร่านให้เจริญแบบตะวันตก ตอนหลังอังกฤษกับรัสเซียร่วมมือกันบังคับให้ชาห์เรซาสละราชสมบัติทำให้พระโอรสที่ชื่อว่าโมฮัมมัด เรซา ปาห์ลาวี ขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ.2494ยุคของชาห์โมฮัมมัดสหรัฐฯในอิหร่านเฟื่องฟูมาก คนอเมริกันมีสิทธิพิเศษในการเข้ามาทำงานในอิหร่าน คนอเมริกันทำผิดก็ใช้กฎหมายอเมริกันพิจารณาคดีได้ คนอิหร่านไม่พอใจ จึงร่วมกันปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ปาห์ลาวีได้สำเร็จและขับไล่อิทธิพลสหรัฐฯออกไปจากแผ่นดินอิหร่านในยุคของราชวงศ์ปาห์ลาวี อิหร่านเริ่มโครงการนิวเคลียร์โดยความช่วยเหลือด้านวิชาการของเยอรมนี แต่สหรัฐฯและตะวันตกไม่ต่อต้านเพราะความสัมพันธ์ของอิหร่านกับประเทศตะวันตกในยุคนั้นดีมากพ.ศ.2528 อิหร่านเริ่มโครงการเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมดิบ ทำให้สหรัฐฯและกลุ่มประเทศตะวันตกกังวลใจมาก การเพิ่มสมรรถนะหรือ enrich แร่ยูเรเนียมเป็นกรรมวิธีในการแปรสภาพแร่ยูเรเนียมดิบให้เป็นก๊าซ หลังจากนั้นนำก๊าซที่ได้ไปเข้าเครื่องมือเฉพาะเพื่อปั่นแยกให้ได้ก๊าซส่วนที่เข้มข้นที่สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ได้ตามข้อกำหนดของ IAEA ประเทศสมาชิกสามารถทำการใดๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อใช้ประโยชน์ด้านสันติได้ แต่จะต้องรายงานให้ IAEA ทราบเรื่องโดยตลอดตั้งแต่ขั้นริเริ่ม และจะต้องยินยอมให้ผู้เชี่ยวชาญของ IAEA เข้าไปตรวจสอบโดยที่ไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้ากรณีของอิหร่าน มีการเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมมานานแล้ว แต่อิหร่านไม่ได้แจ้งให้ IAEA รับรู้ IAEA เป็นฝ่ายไปสืบสวนหาข่าวและได้รับรู้เรื่องต่างๆเอง ข้อนี้อิหร่านเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎของ IAEA ซึ่งตนเองตกลงที่จะปฏิบัติตามเมื่อเข้าเป็นภาคีตั้งแต่เริ่มต้นแล้วIAEA เป็นองค์การของสหประชาชาติ ตั้งเมื่อ พ.ศ.2511 วัตถุประสงค์หลักของการตั้งคือ ยอมให้มหาอำนาจนิวเคลียร์ในสมัยนั้น อันมีสหรัฐฯ โซเวียต จีน อังกฤษ และฝรั่งเศส ยังคงมีอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป แต่ห้ามประเทศอื่นในโลกผลิตอาวุธนิวเคลียร์ร้ายแรงขึ้นมาอีก แต่อนุญาตให้รัฐสมาชิกสามารถพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์เพื่อใช้ในด้านสันติได้ โดยให้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลและติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิดของ IAEAบางประเทศมีอาวุธนิวเคลียร์แต่ไม่เป็นสมาชิก IAEA อย่างเช่น อินเดีย ปากีสถาน และอิสราเอล จึงไม่ต้องปฏิบัติตามกฎอะไร เกาหลีเหนือซึ่งกำลังผลิตอาวุธนิวเคลียร์แต่ก็ได้ถอนตัวออกจาก IAEA เมื่อ พ.ศ.2545ตอนที่ IAEA ทราบว่าอิหร่านเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิหร่านป้องกันตัวโดยอ้างสิทธิและความชอบธรรมของตนในฐานะเป็นสมาชิก IAEA ว่าตนมีสิทธิเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเพื่อพัฒนาให้เป็นพลังงานทดแทนน้ำมัน อิหร่านอ้างว่า เพราะสหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่านและถอนการสำรวจและการลงทุนในการผลิตน้ำมันออกจากอิหร่าน ทำให้อิหร่านสามารถนำน้ำมันจากแหล่งธรรมชาติมาใช้ได้น้อยลง จึงต้องหันมาค้นหาพลังงานจากแหล่งอื่น และถ้าหากอิหร่านทำได้สำเร็จ ก็จะเป็นผลดี เพราะจะทำให้อิหร่านมีน้ำมันเหลือที่จะส่งออกไปยังตลาดโลกได้มากขึ้นพรุ่งนี้มารับใช้กันต่อครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com