ผม ภรรยา และลูก 2 คน ติดอยู่เมืองไทยกลับจีนไม่ได้ แต่ภัตตาคารของเราที่เมืองกุ้ยหลินและนครฉางซาก็ยังดำเนินไปด้วยดี วิถีชีวิตใหม่ของคนจีนหลังวิกฤติโควิด-19 เปลี่ยนไปมากพอสมควร โดยเฉพาะการมีชีวิตในชนบทเสาร์พรุ่งนี้ 18 กรกฎาคม 2563 ผมเชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด ‘วิถีชีวิตใหม่หลังวิกฤติโควิด-19’ เวลา 13.00-16.00 น. ที่ห้องสัมมนา กบินทร์บุรีสปอร์ตคลับ ถนนสุวรรณศร อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีผมและคุณเว่ย นา ภรรยาจะไปร่วมงานด้วยครับ หากท่านสนใจ ผมสองคนอาจจะพูดแถมเรื่องการบริหารงานภัตตาคารอาหารไทยในจีนหลังวิกฤติโควิด-19 ท่านที่สนใจต้องจองที่นั่งได้ที่เบอร์ 08-0559-2426 ขอความร่วมมือท่านที่เข้าร่วมใส่หน้ากากอนามัยและนั่งโต๊ะห่างกันช่วงนี้ในโซเชียลมีเดียจีนเขียนถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแกเร่งปั่นกระแสความขัดแย้งกับจีนอย่างไม่สนใครหน้าไหนทั้งสิ้นนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศคำสั่งให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรคมนาคมทุกแห่งในสหราชอาณาจักรจะไม่สามารถซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องจากบริษัทหัวเว่ยได้อีกตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไปบอริสประกาศให้บริษัททุกแห่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ของหัวเว่ยไปแล้ว ต้องยกเลิกการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยให้หมดจากเครือข่ายระบบสื่อสารแบบไร้สาย 5G ภายใน 7 ปี หรือภายใน พ.ศ.2570 โดยอ้างเรื่องความมั่นคง แม้ว่าคำสั่งนี้จะทำให้อังกฤษต้องเลื่อนเวลาการสร้างเครือข่าย 5G ช้าไปอีก 1 ปี และกระทบกับผู้ใช้มือถือของอังกฤษทั้งหมดก็ตามนายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีดิจิทัลของอังกฤษก็ออกมาอ้อมแอ้ม แถลงว่า นายกฯจอห์นสันต้องตัดสินใจด้วยความยากลำบาก แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและความมั่นคงภายในประเทศระยะยาว เรื่องนี้ แม้แต่ไอ้ปื๊ดลูกเจ้น้องก้นซอยสองก็รู้ครับ ว่ารัฐบาลอังกฤษถูกกดดันอย่างหนักจากทรัมป์ ถึงขนาดต้องเปลี่ยนจุดยืนทางนโยบายกลายเป็น ‘แบน’ หัวเว่ยทั้งหมดนายดาวเดนออกมาพูดได้ไม่กี่ชั่วโมง ทรัมป์ก็ออกมาประกาศชัยชนะว่า อ้า ข้าเองนั่นละที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ ข้าคือคนที่อยู่เบื้องหลังการแบนหัวเว่ยออกจากอังกฤษ ทรัมป์ยังพูดแบบแผ่นเสียงตกร่องว่าหัวเว่ยคือภัยคุกคามความมั่นคงรัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษฟังทรัมป์โม้แล้วก็อึกอักว่า อ้าทรัมป์ไม่น่าจะมีอิทธิพลต่ออังกฤษขนาดนั้น แต่แค่ใช้หางตาซ้ายชำเลืองก็ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า การแบนหัวเว่ยออกจากอังกฤษคือการเมืองระหว่างสหรัฐฯที่บีบอังกฤษให้เดินตามเกมของสหรัฐฯก่อนหน้านั้น ทรัมป์ตอบโต้กฎหมายความมั่นคงของจีนในฮ่องกง โดยลงนามในกฎหมายว่าด้วยการคว่ำบาตรสถาบันการเงินของจีนที่รับทำธุรกรรมหรือร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน และลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ‘ถอนสิทธิพิเศษ’ การค้าของฮ่องกง (ที่เคยให้มาตั้งแต่ พ.ศ.2540) อย่างเป็นทางการนั่นหมายความว่า ตั้งแต่นี้ไปฮ่องกงจะถูกปฏิบัติจากสหรัฐฯแบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดยไม่มีเอกสิทธิ์หรือเศรษฐกิจพิเศษอีกต่อไปเท่านั้นยังไม่พอ ทรัมป์กำลังจะสาดน้ำมันเข้ากองไฟให้ยิ่งลุกโชนขึ้น เมื่อนายเดวิด สติลเวลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯออกมาบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯจะคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนแบบเจาะจงเป็นรายบุคคล และเตรียมขึ้นบัญชีดำทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ต่อประเทศคู่กรณี ในเรื่องที่จีนพยายามขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศในยุคของทรัมป์ยังเหน็บบริษัทซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจจีนที่เข้ามามีบทบาทในทะเลจีนใต้ว่า เป็นบริษัทอีสต์อินเดียยุคใหม่ แถมยังมีความกังวลว่าจีนอาจจะไม่ยึดตามแผนปฏิบัติของการเจรจาแนวทางปฏิบัติว่าด้วยทะเลจีนใต้ร่วมกับอาเซียนที่ต้องได้ข้อสรุปภายในปี 2564สหรัฐฯพยายามอย่างเต็มที่ที่จะซัดจีนลงให้ได้ นอกจากนั้น ยังพาพวกที่เป็นคอหอยลูกกระเดือกกับสหรัฐฯลุยจีนอย่างเต็มที่อีกด้วย.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com