ทำไมเมื่อ 7 ปีก่อน มหาเศรษฐีไฮเทครวยที่สุดในโลกอย่างเจ้าพ่ออเมซอน “เจฟฟ์ เบซอส” จึงยอมควักกระเป๋า 250 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ซื้อ “วอชิงตัน โพสต์” หนังสือพิมพ์เก่าแก่อายุกว่า 140 ปี ทั้งๆที่ดีดลูกคิดยังไงก็ขาดทุน เพราะอุตสาหกรรมสื่อทั้งหนังสือพิมพ์และทีวีกำลังเป็นธุรกิจขาลงโดนดิสรัปชันเต็มๆเจ้าพ่ออเมซอนยอมรับว่าแว่บแรกที่ “โดนัลด์ เกรแฮม” ทายาทเจ้าของ “วอชิงตัน โพสต์” ติดต่อขอให้ซื้อกิจการหนังสือพิมพ์ เขาลังเลใจไม่น้อย เพราะอย่างแรกไม่มีความรู้เรื่องหนังสือพิมพ์เลย และวิเคราะห์ยังไงก็ไม่เห็นหนทางกำไร เพราะธุรกิจหนังสือพิมพ์แบกค่าใช้จ่ายมหาศาล, ต้นทุนการผลิตสูงลิ่ว และใช้คนเยอะ เต็มไปด้วยบุคลากรรุ่นเก่า ขณะที่รายได้ลดฮวบฮาบ บวกลบคูณหารแล้วเลือดคงไหลไม่หยุด คนละเรื่องกับการทำมาค้าขายบนโลกออนไลน์ที่เขาถนัด ลงทุนน้อย แต่ธุรกิจโตเอาโตเอาปีละหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งๆที่คิดมาจากบ้านว่าไม่สนหนังสือพิมพ์ แต่เจ้าพ่ออเมซอนก็ต้องเปลี่ยนใจกะทันหัน เมื่อ “โดนัลด์ เกรแฮม” ชี้ทางสว่างว่า “วอชิงตัน โพสต์” ไม่ใช่แค่หนังสือพิมพ์ที่มีความชำนาญนำเสนอข่าวสาร แต่ “วอชิงตัน โพสต์” เปรียบเหมือน “สถาบัน” ที่อยู่คู่สหรัฐอเมริกามายาวนานข้ามศตวรรษ ที่สำคัญยังเป็นหนังสือพิมพ์ประจำเมืองหลวงของชาติมหาอำนาจโลก “วอชิงตัน โพสต์” จึงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตยสำหรับนักธุรกิจผู้ปราดเปรื่อง เขาไม่ได้ต้องการแค่ซื้อ “สถาบัน” เพื่อต่อลมหายใจให้ “วอชิงตัน โพสต์” ตายช้าลง แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถพลิกฟื้นธุรกิจตะวันตกดินให้กลับมามีอนาคต และเมื่อเห็นโอกาสชนะมากกว่าแพ้จึงพร้อมลุย ตั้งใจปลุกปั้น จากสื่อท้องถิ่น ให้เป็นสื่อระดับชาติและระดับโลกในทัศนะเจ้าพ่ออเมซอนเห็นว่า ในขณะที่อินเตอร์เน็ตทำลายความได้เปรียบทั้งมวลของหนังสือพิมพ์ยุคเก่า แต่อินเตอร์เน็ตกลับเป็นประตูบานใหญ่เบ้งที่เปิดให้คนทั้งโลกได้อ่านหนังสือพิมพ์ ย้อนกลับไปในยุคที่หนังสือพิมพ์เฟื่องฟูสุด “วอชิงตัน โพสต์” เคยมียอดพิมพ์สูงถึง 832,332 ฉบับ ในปี 1993 แต่เมื่อถูกเทคโนโลยีดิสรัปชัน ยอดพิมพ์ค่อยๆลดลงต่อเนื่องจนเหลือ 484,385 ฉบับ ในปี 2012กระนั้น ยุทธศาสตร์ใหม่ที่พลิกฟื้น “วอชิงตัน โพสต์” ให้ท็อปฟอร์มอีกครั้งคือ การลบโมเดลธุรกิจแบบเก่า ที่พึ่งการหารายได้ก้อนใหญ่จากโฆษณาและยอดขายหนังสือพิมพ์ เปลี่ยนมาเล่นกับ “วอลลุ่ม” เพื่อสร้างรายได้ล่วงหน้าไปก่อน ทำยังไงก็ได้ให้สามารถดึงดูดผู้อ่านเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกให้ได้มากที่สุดทุกทางเจ้าพ่ออเมซอนทำสำเร็จ!! ภายในเวลาไม่นานสามารถพลิกฟื้น “วอชิงตัน โพสต์” จากที่รายได้ตกฮวบ 44% ภายใน 6 ปี และขาดทุนต่อเนื่องหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2009 กลับมาทำกำไรได้รวดเร็ว หลังสร้างทีมเฉพาะกิจเข้าไปปฏิวัติหนังสือพิมพ์เก่าแก่ให้เป็นองค์กรสื่อและเทคโนโลยีเต็มตัว โดยภารกิจแรกคือ การยกเครื่องใหม่หมด ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชันมือถือ เพื่อสร้างซอฟต์แวร์ “Arc” ที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า อาวุธทรงพลังของธุรกิจยุคดิจิทัล ที่บอกพฤติกรรมผู้บริโภคได้หมดภายใต้ยุคของ “เจฟฟ์ เบซอส” ปัจจุบัน “วอชิงตัน โพสต์” มีพนักงานกว่า 700 คน โดยหัวหอกสำคัญคือทีมเอ็นจิเนียร์ ซึ่งคุยว่าเป็นทีมแข็งแกร่งที่สุดในซิลิคอน วัลเลย์ แม้จะไม่ก้าวก่ายเรื่องกองบรรณาธิการข่าวมากนัก แต่เขาก็แบ่งเวลามาประชุมคอนเฟอเรนซ์คอลกับผู้บริหารทุกสองอาทิตย์ และนัดประชุมใหญ่ปีละสองหนที่ซีแอตเติล ปัจจุบันรายได้หลักของ “วอชิงตัน โพสต์” มาจากการเก็บค่าสมาชิกคนละ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี จนถึงขณะนี้มีคนสมัครเป็นสมาชิกแล้วกว่า 1 ล้านราย การันตีรายได้ปีละ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังไม่นับรวมถึงรายได้จากโฆษณา, การจัดกิจกรรมสัมมนาอีเวนต์ต่างๆ และค่าสมาชิกหนังสือพิมพ์ ทั้งในรูปแบบปรินต์ และ eNewspaper หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน!! ยังไงจรวดกับหัวจรวดก็ต้องมุ่งไปทิศเดียวกันถึงจะสำเร็จ.มิสแซฟไฟร์