หลังการเจรจาระหว่างนายชาร์ลส มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป กับประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิป เออร์โดกัน แห่งตุรกี ที่กรุงบรัสเซลส์ ในเบลเยียม เมื่อ 9 มี.ค. ต่างเห็นควรเรื่องที่จะทบทวนข้อตกลงที่ทำไว้ 4 ปี เกี่ยวกับการบริหารจัดการผู้อพยพและผู้ลี้ภัยกันใหม่ ซึ่งเป็นความพยายามยุติข้อโต้แย้งในการปล่อยขบวนคาราวานผู้อพยพและผู้ลี้ภัยไปยังพรมแดนตุรกี-กรีซ เพื่อเข้าไปถึงยุโรป โดยทีมที่รับผิดชอบทั้งหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียูกับรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีจะทำงานร่วมกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อสร้างความกระจ่างถึงการนำไปปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวของทั้งสองฝ่าย ซึ่งเออร์โดกันเคยกล่าวโทษว่า อียูไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ให้ไว้ รวมถึงเงินที่รับปากว่าจะให้ตุรกีเพื่อคอยดูแลผู้อพยพไหลเข้ายุโรปอย่างไรก็ตาม สถานการณ์บริเวณพรมแดนตุรกี-กรีซ เริ่มกลับมาสงบลง โดยเจ้าหน้าที่กรีซเข้าสกัดผู้ที่พยายามข้ามพรมแดนเข้ามาได้ 1,646 คน และจับกุมตัว 2 คน ส่วนรัฐบาลผสมของเยอรมนีก็มีเจตนาที่จะสนับสนุนกรีซถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากในด้านมนุษยธรรมของเด็กราว 1,000-1,500 คน ซึ่งอาจช่วยเหลือเด็กที่มีความจำเป็นต้องดูแลด้านการแพทย์ หรือเด็กที่ยังเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 14 ปี โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง แต่ไม่ได้ระบุว่าจะรับรองจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งอาจมีการเจรจากับอียูในอีกไม่กี่วันนี้.