เมื่อ 18 ก.ย.62 นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล เรียกร้องให้พรรคบลู แอนด์ ไวท์ สายกลาง ภายใต้การนำของนายเบนนี แกนต์ ร่วมตั้งรัฐบาลผสมเอกภาพแห่งชาติกับพรรคลิคุดฝ่ายขวาของตน หลังผลการเลือกตั้งเบื้องต้นระบุว่าพรรคลิคุดคว้า ส.ส. ได้ 32 ที่นั่ง แพ้พรรคบลู แอนด์ ไวท์ ของแกนต์ อดีตนายพลทหารบก คู่แข่งคนสำคัญซึ่งได้ ส.ส. 33 ที่นั่ง จากทั้งหมด 120 ที่นั่งในสภาผู้แทนฯหรือเนสเซตทั้ง 2 พรรคนี้ได้ไม่ถึง 61 ที่นั่ง เพียงพอจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ทำให้เกิดการเจรจาตั้งรัฐบาลปรองดอง หรืออาจถึงเวลาสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุด 13 ปี ของเนทันยาฮู ซึ่งอาจทำให้เขาถูกดำเนินคดีในข้อหาคอร์รัปชันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก่อนหน้านี้ เนทันยาฮูเผยว่ามีทางเลือกเพียง 2 ทางคือให้ตนตั้งรัฐบาลพันธมิตรสายขวาเหมือนรัฐบาลชุดปัจจุบัน หรือมีรัฐบาลอันตรายที่ต้องอาศัยพันธมิตรพรรคจอยต์ ลิสต์ ของชาวอาหรับ ที่มีคะแนนอันดับ 3 ราว 13 ที่นั่ง ขณะที่แกนต์เรียกร้องให้ตั้งรัฐบาลปรองดองแบบกว้างขวาง ด้านริยาด อัล-มาลิกิ รมว.ต่างประเทศปาเลสไตน์ เผยว่า ไม่ว่ารัฐบาลชุดใหม่ของอิสราเอลจะเป็นอย่างไรก็พร้อมเจรจาสันติภาพกับอิสราเอล.