นักการเมืองสำคัญอีกคนหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ผมชอบตามการให้สัมภาษณ์ ปาฐกถา คำบรรยายปราศรัย รวมทั้งอ่านข้อเขียน คือ ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม ซึ่งถูกวางตัวให้เป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียคนต่อไป ที่ชอบตามเพราะชีวิตของอันวาร์นั้นระหกระเหินเผชิญเคราะห์กรรมกระหน่ำซ้ำเติม ถูกรังแกจากฝ่ายอำนาจครั้งแล้วครั้งเล่า จนผมเชื่อว่าทัศนคติในการมองโลกของอันวาร์ “ตกผลึก” ทำให้คำบรรยายและข้อเขียนของอันวาร์ตกผลึกท่านที่ตามความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียกับจีนก็คงจะทราบนะครับ ว่า ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด เป็นนายกรัฐมนตรีรอบนี้ ความสัมพันธ์ของสองประเทศไม่ดี เพราะ ดร.มหาเธร์มองว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จีนมาลงในมาเลเซียนั้น มาเลเซียเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ แกจึงยกเลิก รัฐบาลมาเลเซียยังส่งผู้ต้องหาชาวจีนชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ไปให้ตุรกี แทนที่จะส่งไปให้จีนแต่อันวาร์กลับมองตรงกันข้ามกับ ดร.มหาเธร์ (อีกแล้ว) อันวาร์มองว่าจีนเป็นมหาอำนาจสำคัญในภูมิภาคที่มาเลเซียละเลยไม่ได้ 13 ตุลาคม 2561 อันวาร์พูดในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 47 ขององค์การเยาวชนอิสลาม (ABIM) เรียกร้องให้เยาวชนมาเลเซียเรียนภาษาจีนจนถึงขั้นนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างชำนาญ อันวาร์บอกว่าภาษาจีนคือ “an important regional economic language” ภาษาเศรษฐกิจของภูมิภาคที่สำคัญอันวาร์สร้างตัวเองให้ขึ้นมาโดดเด่นทางการเมืองจากการเป็นผู้นำนักศึกษาขององค์การเยาวชนอิสลาม ซึ่งเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวที่นับถือศาสนาอิสลามในมาเลเซีย และกระโจนมาเป็นสมาชิกพรรครัฐบาลอัมโนเมื่อ พ.ศ.2525 เคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียระหว่าง พ.ศ.2536-2541 เมื่อวิพากษ์วิจารณ์ ดร.มหาเธร์ นายกฯบ่อยๆก็เลยถูกจับข้อหามีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน และต่อมาโดนอีกหลายข้อหา ทำให้อันวาร์ต้องเข้าๆออกๆ คุกอยู่นานเกือบ 20 ปี กระทั่งการเลือกตั้งครั้งที่ 14 ของประเทศเมื่อ 9 พฤษภาคม 2561 กลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้านปากาตัน ฮาราปัน หรือแนวร่วมแห่งความหวัง ที่นำโดย ดร.มหาเธร์และแพทย์หญิงอาซีซะห์ สัญญากับผู้ลงคะแนนว่า ถ้าชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล จะคืนอิสรภาพให้กับอันวาร์ขณะที่มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 14 อันวาร์ยังอยู่ในคุก มีกำหนดพ้นโทษมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย 8 มิถุนายน 2561 พ้นโทษมาแล้วก็จะต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี แต่เมื่อเสียงของประชาชนคนมาเลเซียเลือกแนวร่วมแห่งความหวัง ซึ่งเป็นพวกฝ่ายค้าน จนชนะคะแนนฝ่ายรัฐบาลเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 ก็ทรงเห็นชอบพระราชทานอภัยโทษให้อันวาร์ ทำให้ พ้นโทษได้ก่อนกำหนดและสามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เลยถ้าใครตามการกระดิกพลิกตัวของอันวาร์ในอดีต จะเห็นว่าอันวาร์กลัวว่าสังคมมาเลเซียจะประณามหยามหมิ่นว่าแกเป็นพวกต่อต้านอิสลาม หรือพวกโลกวิสัย แกจึงมักจะเงียบในประเด็นศาสนา แต่หลังจากผ่านชีวิตรุ่งเรืองและตกต่ำมาจนตกผลึก อันวาร์ไม่กลัวแล้วครับตอนที่ศาลสูงชารีอะฮ์ในเมืองกัวลาตรังกานูตัดสินให้โบยสตรี 2 คน อายุ 22 ปี และ 23 ปี ข้อหาพยายามมีเพศสัมพันธ์กัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนอันวาร์จะเงียบกับการตัดสินของศาลชารีอะฮ์ แต่ครั้งนี้ อันวาร์ไม่เงียบครับ แกให้สัมภาษณ์ทันทีว่า เป็นการ ลงโทษที่เกิดจากการนำกฎหมายอิสลามมาตีความแบบที่คับแคบและบิดเบือนอันวาร์บอกว่าตัวเองไม่ได้ต่อต้านกฎหมายชารีอะฮ์ แต่การที่มาเลเซียเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางศาสนาก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะเน้นวัตถุประสงค์ในขั้นสูงกว่าชารีอะฮ์ คือการทำให้เกิดสันติภาพ ความมั่นคง ความยุติธรรม ความอดกลั้นต่อความแตกต่าง การศึกษา และความเข้าใจ แต่ตอนนี้ชารีอะฮ์ไม่ได้ถูกนำมาใช้กับวัตถุประสงค์ในขั้นสูงกว่านี้ พูดเท่านี้ อันวาร์ก็เสนอให้มีการอภิปรายหารือกันถึงเรื่องกฎหมายอิสลาม ก่อนที่จะนำกฎหมายชารีอะห์มาใช้ทัศนคติที่ “ตกผลึก” ของอันวาร์น่าสนใจครับ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com