ขึ้นแท่นเจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ หลังสาว “โบวี่–อัฐมา ชีวนิชพันธ์” ทำรายการรีโนเวทบ้านผ่านช่องยูทูบจนมีประสบการณ์ได้ไปรวมหุ้นทำโครงการสร้างบ้านขาย ส่วนชีวิตคู่กับหนุ่ม ปู–สุรนาท สามี ยืนยันไม่คิดมีทายาท เจอ โบวี่ ร่วมงานแถลงข่าว เดิน-วิ่งการกุศล “ก้าวด้วยธรรม ก้าวด้วยใจ สร้างอาคารโรงพยาบาล” ครั้งที่ 7 ที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร ราชวรวิหาร ล่าสุดทำอสังหาริมทรัพย์ เปิดโครงการบ้าน?“ใช่ค่ะ จับพลัดจับผลูไปทำโครงการบ้านเป็นบ้านวิวเขาอยู่ที่จังหวัดสระบุรี”เป็นเจ้าของเลยเหรอ? “เป็นหุ้นส่วนหลักค่ะ มีหุ้นหลายคน ไม่ได้รวยขนาดนั้น”กี่ยูนิต?“70 ยูนิตค่ะ เป็นบ้านหลังละประมาณ 2 ล้านกว่าบาท 3 ล้าน แต่เป็นบ้านวิวเขาที่สระบุรี”เริ่มต้นมาจากที่เราตกแต่งภายในใช่มั้ย?“ใช่ เริ่มต้นจากการที่เราเป็นอินฟลูเอนเซอร์สายแต่งบ้านเราก็จะมีทำคอนเทนต์พวกการแต่งบ้าน สร้างบ้านอยู่ตลอด แล้วก็มีรีวิวโครงการบ้านต่างๆด้วย ทีนี้ก็จับพลัดจับผลู จริงๆ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจทำ พอดีว่าธรรมสถานที่โบว์ไปปฏิบัติธรรมอยู่ข้างๆเค้ามีให้ประมูลเลยมีคนชวนไปซื้อ เราก็เลยไปซื้อมา ในส่วนเงินลงทุนของเราลงทุนไป 8 หลักค่ะ ตอนนี้ขายไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์แล้วค่ะ”ชื่อเสียงของเรามีส่วนช่วยในการขายบ้านมั้ย?“มีส่วนช่วยในเรื่องของการที่เราเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในเรื่องของการแต่งบ้าน เพราะจะมีแฟนๆที่ติดตามมาซื้อเพราะคลิปเรา (ยิ้ม) เราก็รีวิว เค้าอาจจะติดตามเราอยู่แล้วและชอบสไตล์การตกแต่ง พอเราทำโครงการออกมาเค้าก็ตามมาดูตามมาซื้อ ที่ผ่านๆ มาเราก็สร้างนู่นนี่มาเรื่อยๆ เราก็มีประสบการณ์ในเรื่องของการทำนู่นนี่ แต่ยังไงก็แล้วแต่มันก็ยังมีข้อผิดพลาด ค่อยๆ แก้ไขและเรียนรู้เอาไปพัฒนาขึ้นไปอีก”ถือเป็นก้าวแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเรา?“เต็มตัวแล้วกัน คือทำก้าวแรกในแบบเต็มตัวคือก่อนหน้านี้มันทำกระจุ๊กกระจิ๊ก อันนี้คือเป็นรูปเป็นร่างมากสุด”มูลค่ารวมของโครงการอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่?“น่าจะ 160 ล้านค่ะ” หลายคนก็มองว่าเป็นเศรษฐินีแล้ว? “ไม่ๆๆค่ะ ไม่ต้องอินบ็อกซ์มายืมเงินนะคะ (หัวเราะ) แซวเล่น คือเราลงทุนเนื่องจากเราไม่ได้กู้ ดังนั้นเงินเราก็ยังหมุนอยู่ในโครงการค่ะ ยังไม่ได้เป็นเศรษฐินีจริงๆ กลัวจะเข้าใจผิดว่ารวย เอาเป็นว่าเรามีกินมีใช้พอดี จริงๆเส้นทางอาชีพที่จะไปต่อจากนี้ก็จะเป็นแนวอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด มีโปรเจกต์ต่อไปที่วางแผนไว้แล้วค่ะ ก็ฝากติดตาม (ยิ้ม)”ถามเรื่องมีลูก?“เค้าก็อยากมีแต่ว่าสุดท้ายแล้วเค้าตามใจเรา ถ้าเราไม่อยากมีก็ได้ไม่เป็นไรแต่เค้าก็จะพูดอยู่เรื่อยๆว่าเค้าอยากมี ถามว่ากดดันมั้ย มันมีบางแว้บเหมือนกันนะหรือจะมีดีนะแล้วก็พอไปเห็นลูกเพื่อน ไม่มีดีกว่า โอ้โห เลี้ยงเด็กคนนึงมันต้องทุ่มเทชีวิตลงไปเลยแล้วก็สมัยนี้สภาพสังคมอะไรอีกก็เลยคิดว่าไม่มีน่าจะสะดวกดีกว่า ด้วยเราใจไม่อยากมีลูกอยู่แล้วด้วย รู้สึกเหมือนเป็นบ่วง อย่างบางทีคนที่มาเกิดเป็นลูกเรา อาจจะไม่ได้ผูกกันมาด้วยบุญนะ อาจจะผูกมาด้วยกรรมก็มี แล้วกลายเป็นว่าต้องมาปะทะอะไรกันอีกถ้าเราตัดได้มันก็จะได้ไม่ต้องมาอะไร”เคยบอกสามีเรื่องทำหมันมั้ย?“เคยพูดด้วย โบว์ทำก็ได้ ไม่ซีเรียส เพราะเราไม่อยากมีก็ไม่ต้องไปบังคับเค้า คือเคยไปปรึกษาหมอแล้วไปคุยกับหมอแล้ว หมอไม่อนุญาต เพิ่งรู้เหมือนเป็นจรรยาบรรณแพทย์ หมอบอกทำให้ไม่ได้เรายังเด็กเผื่อในอนาคตเราเปลี่ยนใจ” แล้วถ้าลูกมาเลยล่ะ?“ถ้ามาเลยก็ต้องดูแล ถ้ามาเลยแสดงว่าคงอยากเกิดกับเราจริงๆก็ต้องดูแลอย่างดี ณ ตอนนี้มันยังไม่ได้มีปัญหาอะไร มันก็เป็นไปได้เนอะเช่นเลิกกับเราไปหาผู้หญิงคนอื่น เพราะอยากมีลูก ก็ไม่รู้นะเรื่องในอนาคต เค้าอยากมีเพราะสัญชาตญาณมนุษย์ที่จะมีทายาทสืบพันธุ์ มันไม่มีเหตุผลอะไรที่มันเป็นชิ้นเป็นอัน”.