เกินคาดหมายหนัง “Parasite” จากแดนกิมจิ สร้างประวัติศาสตร์กวาดตุ๊กตา ทอง “รางวัลออสการ์” สูงสุดถึง 4 รางวัลใหญ่ทั้งหนังยอดเยี่ยมผู้กำกับ บทหนังดั้งเดิม และหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม ขณะที่รางวัลดารานำชาย-หญิง ไม่พลิกโผ “วาคีน ฟีนิกซ์-เรเน เซลเวเกอร์” คว้าได้จากหนัง “โจ๊กเกอร์-จูดี” ตามลำดับ ตามด้วยสองดาวดัง “แบรด พิตต์-ลอรา เดิร์น” ต่างคว้าออสการ์ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต จากหนัง “วันซ์ อะพอน อะ ไทม์...อิน ฮอลลีวูด” และ “แมร์ริจ สตอรี” โดยมีนักร้องสาวไทย “แก้ม วิชญาณี” ขึ้นเวทีโชว์พลังเสียงพร้อมนักร้องดังหลายประเทศกลับมาอีกครั้งสำหรับการประกาศผลรางวัลอะคาเดมี อวอร์ดส์ ของสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ หรือรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 ประจำปี 2563 ที่นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อค่ำคืนวันที่ 9 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับช่วงเช้าวันที่ 10 ก.พ. ตามเวลาไทย โดยปีนี้เกิดปรากฏการณ์เขย่าวงการบันเทิงฮอลลีวูด เมื่อภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศคว้ารางวัลใหญ่ “ภาพยนตร์ ยอดเยี่ยม” เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การก่อตั้งรางวัลออสการ์ในปี 2472ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานผลรางวัลที่สร้างความฮือฮาและดีใจอย่างมากให้กับชาวเอเชียเมื่อ ภาพยนตร์เรื่อง “ปรสิต” (Parasite) หรือชื่อไทยว่า “ชนชั้นปรสิต” จากประเทศเกาหลีใต้ เรื่องราวเสียดสีสังคมครอบครัวคน จนเข้าฝังตัวหากินในตระกูลคนรวย กวาดตุ๊กตาทองคำ ออสการ์ไปถึง 4 รางวัล ได้แก่สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม และสาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ด้วยฝีมือของบองจูน โฮ ผู้กำกับชาวเกาหลีใต้ วัย 50 ปี ที่คว้ารางวัลใหญ่ในเอเชียมาแล้วหลายครั้ง ขณะที่ ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ “1917” เรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ถูกมองเป็นตัวเต็ง และคว้ารางวัลหลายรายการทั้งลูกโลกทองคำและบาฟต้าของอังกฤษมาก่อนหน้านี้ กลับต้องชวดรางวัลใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ได้รับรางวัลกลับบ้านถึง 3 สาขา ได้แก่สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม สาขาบันทึกเสียงยอดเยี่ยม และสาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยมส่วนภาพยนตร์ “โจ๊กเกอร์” (Joker) ที่หยิบตัวละครตัวร้ายในการ์ตูนแบทแมนมาทำเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าสะท้อนสังคม คว้าไป 2 รางวัล คือสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากฝีมือการแสดงของดารามากผลงาน วาร์คิน ฟีนิกซ์ และสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับภาพยนตร์ “วันซ์ อะพอน อะ ไทม์...อิน ฮอลลีวูด” (Once upon a Time...in Hollywood) เรื่องราวสัมพันธภาพระหว่างดาราแอ็กชันที่เริ่มลับแสง กับสตันต์แมนคู่หู ของผู้กำกับเควนติน ทารันติโน ที่ได้ไป 2 รางวัล คือสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากบทบาทของดาราค้างฟ้าแบรด พิตต์ ที่ได้รับออสการ์จากสาขาการแสดงเป็นครั้งแรก และสาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม รางวัลฟากนักแสดงหญิงนั้น สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมตกเป็นของเรเน เซลเวเกอร์ ดาราเจ้าบทบาทชื่อดัง จากภาพยนตร์ “จูดี” (Judy) เรื่องราวชีวิตของซุปเปอร์สตาร์อเมริกันระดับโลก จูดี การ์แลนด์ ขณะที่สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ตกเป็นของลอรา เดิร์น ดารามากประสบการณ์ ที่คว้ารางวัลออสการ์เป็นครั้งแรกเช่นกัน จากภาพยนตร์ “แมร์ริจ สตอรี” (Marriage Story) เรื่องราวชีวิตคู่ของผู้กำกับละครเวทีกับดาราสาวสำหรับรางวัลสาขาอื่นๆ นอกจากนี้ การ์ตูนแอนิเมชัน “ทอย สตอรี 4” (Toy Story 4) คว้าสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม “โจโจ แรบบิต” (Jojo Rabbit) รางวัลสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม “ฟอร์ด วี เฟอร์รารี” (Ford v Ferrari) ได้รับ 2 รางวัล สาขาลำดับภาพยอดเยี่ยม และสาขาลำดับเสียงยอดเยี่ยม ขณะที่ “ร็อกเก็ต แมน” (Rocket Man) เรื่องราวชีวิตของเซอร์เอลตัน จอห์น นักร้องชื่อก้องโลก คว้าสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเพลง “(ไอม์ กอนนา) เลิฟ มี อะเกน” (I’m Gonna) Love Me Again นอกจากนี้ ในเวทีออสการ์ปีนี้ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการจัดงานมากว่า 90 ปี ที่มีนักร้องสาวไทยได้ขึ้นไปโชว์ความสามารถ ได้แก่ แก้ม-วิชญาณี เปียกลิ่น หรือแก้ม เดอะสตาร์ ที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปเดินพรมแดง ในงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 92 เพื่อร่วมแสดงโชว์ IN TO THE UNKNOWN เพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน Frozen 2 ร่วมกับ Idina Menzel & Aurora และผู้ให้เสียง “เจ้าหญิงเอลซ่า” จากอีก 8 ประเทศ ซึ่งสาวแก้มก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง สร้างความฮือฮาในพลังเสียงได้อย่างเป็นอย่างดี