กระบวนการ “ดูพระ” สมเด็จ ด้วยสายตาระดับเซียน นั้น เริ่มต้นจากพิมพ์ เมื่อพิมพ์ใช่ ก็ต้องดูเนื้อ มวลสาร ผิว ฝ้า รอยยุบ รอยแยก รอยยับ ตามธรรมชาติเนื้อปูนปั้น อายุใกล้ 150 ปีแม่พิมพ์ดี เนื้อดี ก็ต้องดูด้านหลัง...หลังพระสมเด็จ...ที่ดูแบนราบ เหมือนไม่มีอะไร ความจริงซ่อนความลึกลับซับซ้อนเอาไว้มากมาย ครู “ตรียัมปวาย” สอนไว้ว่า หลังพระชี้ขาดพระแท้ ได้ดีกว่าด้านหน้าเอาด้วยซ้ำยัง...ดูหน้าดูหลัง ยังไม่ถือว่า “จบ” พระแท้แต่ละองค์ การดูให้ครบสูตร ก็ยังมีด้านข้างสี่ด้าน เป็นตัวช่วย ชี้ขาดนอกจากพระสมเด็จแท้แล้ว ก็ต้องแยกให้ออกว่าวัดไหน วัดระฆัง หรือบางขุนพรหมดูพระสมเด็จองค์ในคอลัมน์ เริ่มที่แม่พิมพ์ ก็ชักไม่แน่เสียแล้ว ดูเผินๆ เป็นทรงเจดีย์ แต่แปลกตา ที่มีเส้นแยกจากปลายพระ บาทซ้าย คล้ายฐานแซม แต่ไม่ใช่จุดเส้นแยกนี่แหละ หมุดหมาย ของพิมพ์เกศบัวตูม พิมพ์ที่วงการเรียก พิมพ์ฐานสิงห์กว้างใครที่ผ่านตาพระพิมพ์นี้มากๆ ก็จะรู้ว่า พิมพ์เกศบัวตูม ฐานสิงห์กว้าง เป็นพิมพ์ที่ติดแม่พิมพ์ชัดที่สุด องค์ของคุณนิพนธ์ ประวัติแน่ชัด ขึ้นจากกรุวัดใหม่อมตรสชัดขนาดเจ้าของใช้คำว่า “ยักคิ้วหลิ่วตา”องค์คุณนิพนธ์ ยืนยันทฤษฎี แม่พิมพ์เดิมช่างตั้งใจแกะชัดเจน มีหน้าตา มีสังฆาฏิ ฐานสามชั้น มีฐานแซมสองเส้น...เต็มสูตร เพียงแต่เนื้อพระใช้ปูนหิน (ปูนเปลือกหอย) เป็นหลัก ผสมด้วยน้ำมันตังอิ้ว เมื่อแห้งอัตราการยุบตัวมีมาก ทำให้รายละเอียดทั้งหลายเลือนหายองค์ในคอลัมน์ แม่พิมพ์เดียวกัน แต่เป็นวัดระฆัง แต่การยุบตัวมากกว่าฐานแซม ที่หลายองค์ติดสองเส้น หรือหนึ่งเส้น...ไม่มี รวมกับความสึกช้ำ...ที่เพิ่มความลบเลือนต่อด้วยการดูเนื้อหา เนื้อส่วนที่สึกช้ำ พระพักตร์ พระอุระ พระเพลา ฐาน เส้นซุ้ม และมุมขอบข้าง เห็นความละเอียด ความหนึกนุ่ม และเงาสว่าง จัดเข้าเนื้อเกสรดอกไม้ ตามหลัก “ตรียัมปวาย”ในพื้นผนัง ปรากฏผิวแป้งโรยพิมพ์ประปราย...ลึกลงไป ฝ้ารักขับออกจากผิวเนื้อ ...เป็นตัวช่วยอธิบาย พระองค์นี้เดิมลงรักปิดทอง มวลสารประกอบ กากดำ เม็ดแดง ก้อนขาว กรวดเทาส่องให้ดีๆ ก็มีด้านหลังใกล้เคียงพื้นผนังด้านหน้า...แม้มีผิวมีฝ้ารัก ส่วนที่บางเป็นสีแดงอมน้ำตาล ส่วนที่หนาค่อนสีดำ...ปกคลุม แต่ก็ยังเห็นรูพรุนปลายเข็ม รอยยุบตัวตามธรรมชาติชัดเจนเม็ดปูนขาวเม็ดใหญ่ ขอบบนขวา (มือเรา เติมเสน่ห์เพิ่มคะแนนรวม ด้านความซึ้ง ใช้คำว่า ซึ้งจัดได้เต็มปาก)ดูพิมพ์ ดูเนื้อ ดูธรรมชาติ องค์นี้มาแบบเดิมๆ ครบสูตร ไม่มีการตกแต่งปาฏิหาริย์ด้านราคา ดูจะฟังกันมากแล้ว นานทีคอลัมน์นี้ ไม่ได้พูดถึงปาฏิหาริย์ ด้านพลานุภาพ เรื่องต่อไปนี้ “ตรียัมปวาย” บันทึกไว้ ใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ ชัดเจนปี 2495 คนแขวนพระสมเด็จวัดระฆัง ถูกอัศวินแหวนเพชร ลูกน้อง พล.ต.อ.เผ่า จับตัวลงเรือ ออกปากน้ำ อัศวินใช้มีดโกนสนิมเกรอะ ขู่ว่าเป็นเล่มที่ปาดคอ ส.ส.พร...คู่แข่งทางการเมืองตายไปก่อนหน้า“กูอยากรู้ว่า พระสมเด็จของมึงแน่ หรือมีดโกนของกูแน่” อัศวินแหวนเพชรว่าไม่นาน ปาฏิหาริย์ก็มี เกิดคลื่นใหญ่เรือโคลงเคลง กลุ่มอัศวินเมาคลื่นสลบไสล งานขู่ฆ่า เพื่อบังคับให้เซ็นชื่อปรักปรำ พวกพ้องทางการเมือง จบลงโดยปริยายคนแขวนสมเด็จวัดระฆัง รอดชีวิตกลับบ้าน ส่วนกลุ่มอัศวินอีกสี่ห้าปีต่อมา ก็ถูกจับขึ้นศาลติดคุก ใช้กรรมไปตามความหนักเบา...ปาฏิหาริย์พระสมเด็จวัดระฆัง ใครท้าเป็นต้องแพ้ภัยตัว ลือลั่นนับแต่นั้นมา.O พลายชุมพล O