พูดถึงการแข่งรถ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 24 ชั่วโมง ทุกคนต้องนึกถึง “เลอม็อง” การแข่งรถ 24 ชั่วโมงใน เมืองเลอม็อง ประเทศฝรั่งเศส การแข่งรถ 24 ชั่วโมง เป็นการแข่งขันที่ ทดสอบความทนทานของรถและนักแข่ง ซึ่งนักแข่งในทีม (4 คน) จะต้องผลัดกันขับรถคันเดียวกันด้วยความเร็วเฉลี่ย 200 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมงตลอด 24 ชั่วโมง ถ้ารถและคนไม่แข็งแกร่งจริง ก็คงฝ่าเข้าเส้นชัยได้ยาก การแข่งขันทุกสนาม เมื่อถึงรอบสุดท้ายจะเหลือรถบนสนามแข่งเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นผมอ่านข่าวการแข่งขันนี้มานานแล้ว เพิ่งมีโอกาสไปสัมผัสเมื่อไม่กี่วันก่อนปลายเดือนพฤษภาคม ค่ายรถยนต์โตโยต้า มี คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่เป็นหัวหน้าทีม เชิญสื่อไปร่วมให้กำลังใจนักแข่งทีม “โตโยต้ากาซู เรซซิ่ง ทีม ไทยแลนด์” ในการแข่งขัน ADAC Zurich 24–Hour Race 2017 ที่สนามแข่ง Nordschleife&Grand Prix Strecke เมืองนูร์เบอร์กริง ประเทศเยอรมนี โดย ทีมไทยผ่านรอบคัดเลือกเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในรุ่น SP3 ด้วย รถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต 1800 ซีซี ที่ผลิตจากโรงงานในประเทศไทยเงื่อนไขการแข่งรถ 24 ชั่วโมง ก็คือ รถที่เข้าแข่งขันต้องเป็น Production Car รถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานเพื่อการวางจำหน่ายเท่านั้น ไม่ใช่ผลิตเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ จึงปรับแต่งเครื่องยนต์ไม่ได้มาก นอกจากการปรับแต่งภายในให้เป็นรถแข่งโตโยต้า เริ่มส่ง ทีมไทยแลนด์ เข้าแข่งขันในรายการนี้เมื่อปี 2014 ด้วย โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต ทำผลงานติดอันดับ 9 ปี 2017 จึงส่ง โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต เครื่องยนต์ 1800 ซีซี ลงแข่ง 2 คัน ทำสถิติเข้าเส้นชัยอันดับ 6 และ 7 ปี 2016 โตโยต้า จึงส่งทีมเดิมรถยนต์รุ่นเดิมลงแข่งอีก ท่ามกลางอากาศที่แปรปรวน มีน้ำแข็งและลูกเห็บจนต้องหยุดการแข่งขันไปกว่า 2 ชั่วโมงแต่ ทีมไทยแลนด์ กลับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รถโตโยต้าหมายเลข 123 เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2 ได้ขึ้นไปโชว์บนโพเดียมระดับโลกเป็นครั้งแรก นักแข่งประกอบด้วย คุณสุทธิพงษ์ สมิตชาติ คุณณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ คุณณัฐพงษ์ ห่อทองคำ คุณมานิต กุละปาลานนท์ ส่วนคันที่สองหมายเลข 124 ก็เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 4 ขับโดย คุณณัฐพงษ์ ห่อทองคำ คุณกรัณฑ์ ศุภพงศ์ คุณอาทิตย์ เรือสมบูรณ์ คุณเฉิน เขี้ยนหงส์ปีนี้ ADAC Zurich 24–Hour Race at Nurburgring 2017 สนามเดิม ความยาวราว 25.98 กม. โตโยต้ากาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ทำเวลาในรอบคัดเลือกเข้าเส้นชัยเป็น อันดับ 1 ในรุ่น SP3 ด้วยความเร็วต่อรอบที่ 9 นาที 58.613 วินาที และเป็นอันดับที่ 59 จากโอเวอร์ออลล์ แต่วันแข่งจริง 27-28 พฤษภาคม ทีมไทยเข้าที่ 8 กับที่ 9 โดยมี ทีมเรย์โนลด์ เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 และ 2 ทำสถิติ 131 รอบในเวลา 24 ชั่วโมง เฉลี่ยความเร็ว 285 กม.ต่อชั่วโมงก็ไม่เป็นไรครับ ปีหน้าไปแข่งกันใหม่สนามแข่งนูร์เบอร์กริง เรียกกันสั้นๆว่า “เดอะริง” เป็นสนามที่สุดโหดสนามหนึ่งอยู่ในเมืองนูร์เบิร์กของเยอรมนี มีสนามย่อย 4 สนาม รวมกัน 28 กม. มีทางเรียบแค่ 5 กม. ที่เหลือเป็นทางคดเคี้ยวไปตามภูเขาและมีโค้งอันตรายถึง 73 โค้ง มีนักแข่งเสียชีวิตไปหลายคน จนได้ฉายาว่า “นรกสีเขียว” หรือ Green Hell จนนักแข่งต้องประท้วง จึงมีการปรับแต่งสนามให้โหดน้อยลง เพราะการแข่ง 24 ชั่วโมง ต้องขับทั้งกลางวันกลางคืนท่ามกลางความมืดในสภาพอากาศที่แตกต่างกันการแข่ง 24 ชั่วโมง รถแต่ละคันมีคนขับ 4 คน ผลัดกันขับคนละ 6 ชั่วโมง รถที่เข้าแข่งมีหลายรุ่น ทั้ง ปอร์เช่ เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู บนเครื่องที่แรงต่างกัน เล็กสุดคือเครื่อง 1800 ซีซีการแข่งขันนี้ เป็นกิจกรรมที่ทำรายได้เข้าประเทศมหาศาล เฉพาะบนอัฒจันทร์ก็จุคนถึง 150,000 คน เส้นทางแข่งขัน 25 กม. มีการตั้งเต็นท์ที่พักเป็นระยะๆ มีอีเวนต์และการขายของมากมาย นี่คือ การสร้างรายได้การท่องเที่ยว ในรูปของ กิจกรรมกีฬา ที่เมืองไทยเราน่าทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสนามแข่งขันเราก็มีพร้อมแล้ว.“ลม เปลี่ยนทิศ”