“จิรภพ ภูริเดช” ชื่อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นคดีสำคัญในส่วนตำรวจ และงานใหญ่รัฐบาล ล่าสุดรับบทหนักอึ้งปัญหาใหญ่ประเทศไทยกับการปราบปราม “สแกมเมอร์” ที่มีภาพนักการเมือง บิ๊กคนมีสีเคียงข้างเครือข่ายใหญ่สแกมเมอร์ ยิ่งทำให้ชาวโลกจับตาทางการไทย ถือเป็นสถานการณ์เปราะบางที่สุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าฝ่ายปราบปรามสแกมเมอร์ที่มีผลต่อภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของรัฐบาล และองค์กรตำรวจ ด้วยชื่อชั้นคนทำงาน ตรงไปตรงมา และเป็นที่ยอมรับ ของพี่น้องไทยมีส่วนสำคัญทำให้กลุ่มต่างชาติยอมรับ ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแก้ปัญหาสแกมเมอร์ความโดดเด่นและผลงานต่อเนื่องจากหลักคิดพัฒนา “ภาพลักษณ์และความศรัทธาของประชาชน” ผ่านคดีสำคัญ ทำให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมองว่า สอบสวนกลาง CIB เป็น “ที่พึ่งสุดท้าย”ปรัชญาทำงาน “การเป็นตำรวจที่ดีไม่ง่าย แต่ต้องเสียสละทั้งกายและใจ” วางโครงการ “จิตอาสา” ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส สร้างภาพลักษณ์ตำรวจในหน่วย ไม่ใช่แต่บังคับใช้กฎหมาย แต่ห่วงใยทุกข์สุขคนไทย การบริหารจัดการ พัฒนาตำรวจสอบสวนกลาง CIB ภายใต้ พล.ต.ท.จิรภพ ก้าวกระโดดกว่าหน่วยงานอื่น จนเป็นที่ยอมรับทั้งของตำรวจหน่วยอื่น และเป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธาของพี่น้องประชาชนคนไทยผลงานต่อเนื่องทั้งปีสมควรได้รับการยกย่องให้เป็น “สีกากีแห่งปี 2568”ย้อนประวัติ พล.ต.ท.จิรภพ ลูกหม้อตัวจริง ตำรวจสอบสวนกลาง CIB รับราชการตั้งแต่ รอง สว. จนถึง ผบช. สารวัตรงานสืบสวน กก. 5 และผกก.5 บก.ทท.รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ พื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ คลี่คลายคดีอุกฉกรรจ์ที่เกิดขึ้นกับชาวต่างชาติจำนวนมาก ทำให้ความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวฟื้นคืนกลับมาหลังเกิดเหตุ ผกก.1 บก.ป.รับผิดชอบคดีที่มีความสลับซับซ้อน ผู้มีอิทธิพล คดีอุกฉกรรจ์ พื้นที่กรุงเทพฯต่อเนื่องจนก้าวขึ้นเป็น ผบก.ป. รอง ผบช.ก. และผบช.ก. เป็นยุคที่คนไทยเชื่อมั่นศรัทธาตำรวจสอบสวนกลาง CIB อย่างมาก กว่า 28 ปี พล.ต.ท.จิรภพ สั่งสมประสบการณ์ทำงานจากผู้ปฏิบัติถึงผู้บริหาร นำองค์ความรู้ ศึกษา อบรม ดูงานองค์กรในและต่างประเทศ นำมาพัฒนาตำรวจสอบสวนกลาง ยึดประชาชนและตำรวจเป็นศูนย์กลางมีแนวคิดพัฒนาคน วัสดุ อุปกรณ์ สถานที่ พัฒนาระบบทำงาน ปรับเปลี่ยนองค์กรตำรวจแบบครบวงจร ให้เป็นสากล ยั่งยืน ไม่เพิ่มภาระให้กำลังพล ที่สำคัญสูงสุด ประเทศชาติและประชาชนต้องได้ประโยชน์พล.ต.ท.จิรภพ ริเริ่ม CIB Town ย้ายจากเมืองทองธานีรวมอยู่ที่เดียวกันให้เป็นทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำงานกำลังพล ลดภาระชีวิตประจำวัน เพิ่มประสิทธิภาพปฏิบัติงาน และสร้างวัฒนธรรมครอบครัวเดียวกันเสริมสร้างสวัสดิการหน่วย CIB Town ประกอบไปด้วยอาคารที่พักตำรวจ 1,400 ห้อง อาคารที่ทำงานของกองบังคับการต่างๆ เพื่อให้ทำงานร่วมกันได้ไร้รอยต่อ มีสนาม กีฬาทุกประเภท ฟิตเนส สนาม ยิงปืน ทั้งแบบยิงกระสุนจริง ซิมูเลเตอร์ สนามบินโดรนและบีบีกัน และการทำงานเป็นทีมทางยุทธวิธี สิ่งอำนวยความสะดวกลูกน้องตำรวจ ร้าน 7-11 ขนาดใหญ่ ธนาคาร ร้านซักผ้า ร้านตัดผม สนามเด็กเล่น ห้องสมุด สถานพยาบาล ภายใต้ภูมิทัศน์ที่น่าอยู่ ภายในพื้นที่ใช้ระบบ Smart Campus มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เป็นมาตรฐาน ใช้การ Scan ใบหน้าเข้า-ออกอาคาร กล้อง วงจรปิดในบริเวณโดยรอบกว่า 1,000 ตัวพัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ “Big Data” ที่ใหญ่กว่ามาตรฐานเดิมของ ตร.เชื่อมโยงข้อมูลคดี หมายจับ และข้อมูลจากหน่วยงานอื่น เพื่อสนับสนุนการสืบสวนจากเดิมที่ตำรวจสืบสวนใช้เวลามหาศาลรวบรวมข้อมูลนำมาวิเคราะห์ ตำรวจมีเวลาวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่ม การสืบสวนจึงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผลักดันให้ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ AI ไม่ว่าจะเป็นการอบรมให้ความรู้ ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติ เพื่อให้ตำรวจต่อสู้กับพัฒนาการอาชญากรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดตลอดเวลาได้ ยกระดับ สอบสวนกลาง CIB เป็นศูนย์กลางดูงานหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานความมั่นคงทหาร ตำรวจ สถาบันการศึกษา หน่วยงานต่างประเทศผลงานโดดเด่นรอบปีที่ผ่านมากับบทบาท “ผู้นำ” อยู่ในใจลูกน้องตำรวจ และพี่น้องคนไทยสมควรยกย่อง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช เป็น “สีกากีแห่งปี 2568”.ทีมข่าวอาชญากรรมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่