หลายหน่วยงานตีปี๊บเปิดงานรณรงค์ด้านความปลอดภัย การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รองนายกฯและ รมว.คมนาคม เปิดงานรณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ชูแนวคิด “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” พร้อม 7 มาตรการ ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุการสูญเสียไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ “บิ๊กต่าย” ผบ.ตร.เรียกประชุมตำรวจทั่วประเทศ สั่งคุมเข้มช่วงเคาต์ดาวน์ ห้ามตำรวจลาทุกกรณี เพื่อให้มีกำลังพลพอดูแลประชาชนตลอดช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “ป.ป.ส.กทม.” ประสาน “กรมการขนส่งทางบก” ป้องกันโชเฟอร์เมายาทำอันตรายผู้โดยสาร สุ่มตรวจคนขับรถที่ขนส่งสายใต้ใหม่ 23 คน ไม่พบสารเสพติดตำรวจเตรียมแผนรับมือการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พร้อมรอง ผบ.ตร.และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหน่วยตำรวจทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อกำชับมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงการบริหารจัดการจราจรช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยงานเฉลิมฉลองและกิจกรรมเคาต์ดาวน์ในพื้นที่สำคัญทั่วทุกภูมิภาคผบ.ตร.เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ด้วยการตั้งจุดคัดกรอง จุดตรวจ และด่านตรวจรอบพื้นที่จัดงาน ใช้แนวคิดการดูแลพื้นที่แบบไข่แดง-ไข่ขาว กล่าวคือ พื้นที่ชั้นในหรือพื้นที่ไข่แดงจะมีการตรวจตราอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการนำอาวุธ วัตถุอันตราย หรือสิ่งผิดกฎหมายเข้าไปก่อเหตุหรือสร้างความวุ่นวาย ขณะที่พื้นที่รอบนอกหรือพื้นที่ไข่ขาวจะตั้งด่านคัดกรองก่อนเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน และบริเวณใกล้เคียงจะมีจุดตรวจสกัดเป็นพิเศษกรณีเมาแล้วขับ ขณะเดียวกันกำชับเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรรองรับการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาว ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสียบนท้องถนน พร้อมสั่งให้ตำรวจทั่วประเทศงดขาด ลา ป่วยในช่วงเทศกาล เพื่อให้มีกำลังพลเพียงพอตลอด 24 ชม.ผบ.ตร.ย้ำว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าวเป็นพิเศษ เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก ปีนี้คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการมากกว่าปีที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าตำรวจทั่วประเทศพร้อมเต็มที่ในการดูแลความปลอดภัย สร้างความอุ่นใจให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (สายใต้ใหม่) เวลา 14.00 น. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส. กทม. เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ภายใต้คำขวัญ “ประชาอุ่นใจเดินทางปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2569” โดยมี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.โชคชัย วระศาสตร์ รอง ผบก.ปส.1 พ.ต.ท.กิตติภพ ขำขาว สวป.สน.ตลิ่งชัน กองกำกับการสุนัขตำรวจ (K9) กรมการขนส่งทางบก บริษัทขนส่ง จำกัด บริษัทสิริ โปรเจ็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมปฏิบัติการนายปฤณ เมฆานันท์ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติต้องดำเนินการเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดยาวและมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกัน การรับรู้เกี่ยวกับโทษภัยของยาเสพติด และการรู้เท่าทันขบวนการค้ายาเสพติดควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับบ้านอย่างปลอดภัย“วันนี้จะดำเนินการตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร หากตรวจพบสารเสพติดจะดำเนินการตามหลัก “ผู้เสพคือผู้ป่วย” สอบถามความสมัครใจเพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน หากบำบัดครบถ้วนตามขั้นตอนจะถือว่าไม่มีความผิดทางอาญา นอกจากนี้ยังเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ภายในอาคารผู้โดยสาร เพื่อเตือนภัยประชาชนให้รู้เท่าทันขบวนการค้ายาเสพติด เน้นย้ำเรื่องการระมัดระวังสัมภาระ ไม่รับฝากของจากคนแปลกหน้า เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือขนยาเสพติดโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเตือนเรื่องรับจ้างเปิดบัญชีม้ามีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สรุปผลการปฏิบัติงานครั้งนี้ตรวจปัสสาวะพนักงานขับรถโดยสาร 23 คน ไม่พบสารเสพติด” นายปฤณกล่าวนายปฤณกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบคุณหน่วยงานภาคีเครือข่ายและสื่อมวลชนที่ร่วมผนึกกำลังปฏิบัติหน้าที่มอบความอุ่นใจให้ประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอเน้นย้ำให้พนักงานขับรถพักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด เพื่อส่งผู้โดยสารสู่จุดหมายปลายทางอย่างสวัสดิภาพที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ วันเดียวกัน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “ปีใหม่ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน ถวายเป็นพระราชกุศลพระพันปีหลวง” พร้อมปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมงาม นายพิพัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญความปลอดภัยสูงสุดในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ที่มีวันหยุดยาว 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.68 ถึงวันที่ 4 ม.ค.69 คาดการณ์ว่าประชาชนจะเริ่มทยอยเดินทางเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. คาดว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะกว่า 25 ล้านคน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.57 จากช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนแผนการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงปีใหม่ 2569 ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ขอรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนที่มีจุดหมายการเดินทางระยะเกินกว่า 300 กม. หรือกลุ่มบ้านไกล ให้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ช่วงเริ่มเทศกาลเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด” นายพิพัฒน์กล่าวรมว.คมนาคม กล่าวด้วยว่า ความพร้อมการ บริหารจัดการรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ประกอบด้วย 3 มิติ 7 มาตรการได้แก่ 1.มิติป้องกันก่อนเกิดเหตุ จัดให้มีโครงการตรวจสภาพรถฟรีของกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และบูรณาการตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัย 150 แห่งทั่วประเทศ 2.มิติอำนวยความสะดวก ด้านโครงข่ายการเดินทาง บริการข้อมูลข่าวสารการจราจรผ่านช่องทางออนไลน์ผ่าน Application M Traffic และ Thailand Highway Traffic พร้อมทั้งสามารถตรวจสอบข้อมูลการเดินทางและแจ้งอุบัติเหตุได้ที่ศูนย์ปลอดภัยคมนาคมสายด่วน 1356 แนะนำทางลัดทางเลี่ยง จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทางถนน 3.มิติอำนวยความปลอดภัย ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ตรวจสอบแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติดผู้ขับรถบรรทุกและรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงรถไฟกำกับดูแลวินัยจราจรผู้ใช้ถนน ปรับปรุงซ่อมแซมถนน และจัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเฝ้าระวังจุดเสี่ยงที่มีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หยุดการก่อสร้างชั่วคราว พร้อมตรวจสอบรถโดยสารและรถโดยสารประจำทางผ่านจุดอำนวยความสะดวกและตรวจความพร้อมรถโดยสารกว่า 200 จุดทั่วประเทศอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่