โหมกระแสโซเชียลมีเดียทำให้เด็กโง่ลง? โดย “ออสเตรเลีย” เพิ่งสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายฉบับนี้บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลยอดนิยมอย่าง TikTok, Instagram, X, YouTube และ Facebook ระงับบัญชีผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี ฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุด 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ถือเป็นประเทศแรกในโลกประชาธิปไตยที่มีกฎหมายคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเข้มงวดรุนแรงขนาดนี้ความเคลื่อนไหวครั้งนี้กลายเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ออสเตรเลียออกกฎหมายคุมเข้มโซเชียลมีเดีย เพราะมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเด็กที่ติดสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดวิกฤติสุขภาพจิตครั้งใหญ่ จึงต้องมีกฎหมายมาปกป้องเยาวชนของชาติกระทรวงศึกษาของ “สิงคโปร์” ก็เพิ่งประกาศเมื่อต้นเดือนธันวาคมว่า จะออกกฎห้ามนักเรียนระดับมัธยมศึกษาใช้สมาร์ทโฟนและสมาร์ทวอตช์ภายในโรงเรียนตลอดทั้งวัน โดยต้องฝากโทรศัพท์มือถือไว้กับครู ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนจริงๆ ก่อนหน้านี้มีการห้ามนักเรียนไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือเฉพาะในเวลาเรียน ทั้งนี้ก็เพื่อลดความหมกมุ่นหน้าจอของเยาวชน“เดนมาร์ก” เตรียมแผนห้ามเข้าถึงโซเชียลมีเดียสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี แม้จะอนุญาตให้ผู้ปกครองอนุมัติบางกรณีได้ แต่เป็นหนึ่งในนโยบายเข้มงวดที่สุดของชาติยุโรป ขณะที่ “เนเธอร์แลนด์” รัฐบาลออกโรงแนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เลิกใช้ TikTok และ Instagram เพื่อส่งเสริมการลดเวลาหมกมุ่นบนหน้าจอ และให้เวลาเล่นกลางแจ้งมากขึ้นวารสารการแพทย์ชื่อดัง “BMC Pediatrics” ตีพิมพ์ผลงานวิจัยไว้หลายฉบับ ซึ่งศึกษาถึงผลกระทบของโซเชียลมีเดีย ที่มีต่อพัฒนาการสมองและทักษะทางปัญญาของเด็กและเยาวชน พบว่าการใช้โซเชียลมีเดียในระดับสูง มักสัมพันธ์กับการด้อยลงของฟังก์ชันการทำงานของเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมาธิ, ความจำ, การตัดสินใจ และการยับยั้งพฤติกรรมเด็กและวัยรุ่นที่มีลักษณะเสพติดโซเชียลมีเดีย มักมีความยืดหยุ่นทางปัญญาต่ำกว่าเด็กทั่วไป และมีแนวโน้มขาดการยับยั้งชั่งใจสูงกว่า มักทำอะไรแบบหุนหันพลันแล่น โดยไม่คิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา, ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นทันที, มีสมาธิสั้น, ไม่รู้จักการรอคอย และมีพฤติกรรมเสี่ยงที่สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเอง ผลวิจัยปัญหาของการใช้สมาร์ทโฟนและการเข้าถึงโซเชียลมีเดียที่มีต่อโรคจิตเวชในเด็ก Gen Z ยังพบว่า การใช้สมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตมากเกินไป ทำให้เด็กมีปัญหาสุขภาพจิตหลายอย่าง เช่น กีดกันการสร้างสังคมในชีวิตจริง, หงุดหงิดง่าย, ขาดสมาธิ, ต่อต้านก้าวร้าว, ละเลยหน้าที่, หมกมุ่นและมีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ, พัฒนาการทางภาษาล่าช้า, ขาดทักษะสังคม, พัฒนาการสมองส่วนหน้าช้า, เสี่ยงโรคอ้วน และมีอาการคล้ายออทิสติกเทียมจากข้อมูลสถิติปี 2025 ที่มีการสำรวจพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของ Gen Z ในระดับโลก บ่งชี้ว่าหลายประเทศมีแนวโน้มที่เด็กและวัยรุ่นจะใช้เวลาอยู่บนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาการหนักสุดคือ Gen Z ในไทย ทำลายสถิติโลกใช้เวลากับโซเชียลมีเดียเฉลี่ยวันละมากกว่า 12 ชั่วโมง!! โดยมี YouTube เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม อึ้งไปเลยเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยสากลของ Gen Z ทั่วโลก ซึ่งใช้โซเชียลมีเดียวันละ 3–5 ชั่วโมงถามวัยรุ่นไทยว่าทำไมติดโซเชียลมีเดียชนิดวางไม่ลง ส่วนใหญ่ระบุว่า ไม่อยากตกเทรนด์ใหม่ๆ ทำให้เป็นที่ยอมรับในสังคม และได้สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ชีวิตเสมือนมันงดงามกว่าโลกแห่งความเป็นจริง!!มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม